Saturday, April 18, 2009

ลำดับ๕๕๗.ฐานปฏิบัติการลับของซีไอเอในอุดร(๑)

บทที่ ๑

ตุลาคม ๒๕๐๕ ขณะที่ทหารอเมริกันกำลังถอนตัวออกจาลาวไปตามข้อตกลงหยุดยิงและจัดตั้งรัฐบาลผสม ๓ ฝ่าย ซีไอเอยังคงทิ้งพวกพารูชาวไทยประมาณ ๑๐๐ คนไว้ให้ปฏิบัติงานลับอยู่ในลาวโดยไม่มีคนนอกล่วงรู้ ทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยที่มีภาษาพูดและกิริยาท่าทางไม่แตกต่างจากชาวลาวนัก คอยทำหน้าที่ควบคุมการรับส่งวิทยุ และให้คำแนะนำแก่ผู้บัญชาการทหารลูกน้องของวังเปา คนเหล่านี้เป็นตัวจักรสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนปฏิบัติการโมเมนตัม พวกพารูคอยรายงานความเคลื่อนไหวไปยังผู้คับบัญชาของพวกเขาในประเทศไทย นั่นก็คือ พันเอกประนิตย์ผู้ที่จะรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาโดยตรงในกองทัพบกไทยอีกต่อหนึ่ง

บิล แลร์ได้รับอนุญาตให้คงอเมริกัน ๒ คนไว้ในพื้นที่ปฏิบัติการ ในกองบัญชาการแห่งใหม่ของวังเปาในล่องแจ้ง คือโทนี โพครูฝึกทหารที่เป็นตัวแสบ และวินส์ตัน ลอว์เรนซ์ บัณฑิตจบใหม่จากพรินซ์ตัน ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เหลือจะต้องเดินทางข้ามโขงมาปักหลักอยู่ในไทย

บิล แลร์และแพท แลนดรี้ ย้ายมาปักหลักที่หนองคาย จังหวัดที่อยู่เยื้องกับเวียงจันทน์อีกฝากของแม่น้ำโขง หนองคายมีท่าเรือข้ามฝาก และตัวจังหวัดตั้งอยู่สุดปลายเส้นทางรถไฟที่ตัดมาจากกรุงเทพฯ มีตลาดสด วัดวาอาราม และร้านอาหารตั้งอยู่เรียงรายตามชายตลิ่งแม่น้ำโขง อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสถานที่โจ่งแจ้งเกินไป สำหรับใช้เป็นกองบัญชาการของปฏิบัติการลับ นอกจากนี้ในเมืองยังขาดอาคารมิดชิด และปลอดภัยเพียงพอสำหรับใช้เป็นศูนย์สื่อสาร “คอมโม” รับส่งรหัสทางวิทยุสื่อสาร เมื่อเป็นดังนี้พวกเขาจึงต้องย้ายไปยังอุดรธานี จังหวัดที่ใหญ่กว่า แต่น่าอยู่เหมือนกับหนองคาย

ในอุดรฯ มีสนามบินคอนกรีตขนาดใหญ่ที่หน่วยควบคุมยุทธวิธีทางอากาศของอเมริกาได้มาสร้างเอาไว้ในช่วงต้น ๒๔๙๓ ในกรณีหากเกิดสงครามนิวเคลียร์กับประเทศจีน อาทิตย์หนึ่งจะมีเที่ยวบินพลเรือนมาแวะจอดเพื่อเติมน้ำมันและเดินทางต่อยังจุดหมายอื่นๆ เพียงไม่กี่เที่ยวบิน สนามบินแห่งนี้จึงเป็นเหมือนสนามบินร้าง

ซีไอเอเข้าครอบครองอาคารหลังหนึ่ง อยู่ห่างจากรันเวย์ไปเพียงเล็กน้อย อาคารที่ว่านี้เป็นตึกไม้รูปทรงประหลาด รู้จักกันในชื่อรหัส เอบี๑ มีเครื่องปรับอากาศแบบที่โผล่ยื่นออกทางช่องหน้าต่าง บนหลังคาติดตั้งเสาวิทยุสูงลิ่ว ของห้องรับส่งวิทยุที่อยู่ภายใน แน่นอนว่ามันถูกสร้างไว้รองรับพันธมิตรของอเมริกาที่มักมาเยี่ยมเยือน นั่นก็คือหน่วยข่าวกรองของรัฐบาลไต้หวัน ที่ใช้สถานที่แห่งนี้ในการลอบดักฟังสัญญาณวิทยุจากจีนแผ่นดินใหญ่ แลร์และแลนดรี้ได้ย้ายเข้ามาทำงานที่นี่ และเช่าบ้านพักในตัวเมืองไว้หลังหนึ่ง

No comments: