Thursday, April 23, 2009

ลำดับ๕๘๗.ปฏิบัติการลูกไฟนรก


เมื่อวิลเลียม เอช ซุลลิแวนเข้ามาดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำประเทศลาวเขาพยายามจะทำให้ประชาคมโลกเห็นไปว่าลาวยังคงปฏิบัติตามสนธิสัญญาเจนีวา แต่แท้ที่จริงนั้นเขารับรู้ว่ามีการออกคำสั่งให้ฝูงบินรบออกไปปฏิบัติการโจมตีทิ้งระเบิดในเวียดนามเหนือ ภายใต้ชื่อภารกิจว่า “โรวริ่ง ธันเดอร์” ตั้งแต่วันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๐๘ แล้ว

แต่ก่อนที่ปฏิบัติการโรวริ่ง ธันเดอร์จะเริ่มขึ้น ซุลลิแวนได้วางแผนการโจมตีทิ้งระเบิดในลาวอย่างลับๆ โดยให้ชื่อว่า Barrel Roll Operation ปฏิบัติการนี้เริ่มต้นในวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๐๗ และยุติลงในวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๑๓ รวมระยะเวลา ๕ ปีกว่าที่อเมริกานำเครื่องบินไปทิ้งระเบิดลงในแผ่นดินลาว แม้ว่าจะเป็นเล่นสกปรกผิดกติกา แต่ซุลลิแวนก็ไม่นึกเสียใจอะไร

พวกโซเวียตรู้ว่าอเมริกาทำอะไรอยู่ แต่ก็ปิดปากเงียบเกี่ยวกับทิ้งระเบิดอย่างลับๆของอเมริกา เพราะรู้ดีว่าการส่งปืนต่อสู้อากาศยานและอาวุธยุทธภัณฑ์อื่นๆไปให้ฝ่ายปเทดลาวนั้น มีราคาถูกกว่าที่พวกอเมริกันส่งเครื่องบินไอพ่นมาใช้ในลาว ดังนั้นพวกเขาจึงทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับการฝ่าฝืนข้อตกลงเจนีวาของสหรัฐฯ

ครั้งหนึ่งเมื่อซุลลิแวนเข้าร่วมงานเลี้ยงที่สถานทูตแห่งหนึ่งจัดขึ้นในเวียงจันทน์ เอกอัครราชทูตรัสเซีย บอริส เคอร์นาสเซฟสกี้ ได้มาร่วมงานเลี้ยงนั้นด้วย ขณะนั้นเครื่องบินบรรทุกน้ำมันของกองทัพอากาศสหรัฐฯกำลังเติมน้ำมันเติมน้ำมันทางอากาศให้เครื่องบินรบไอพ่นปีกสามเหลี่ยมอยู่บนฟ้า ท่านทูตรัสเซียถามซุลลิแวนว่า “เครื่องบินข้างบนนั่นของคุณใช่ไหม?” ทั้งๆที่เขารู้คำตอบแก่ใจ ซุลลิแวนตอบว่า “เครื่องบินที่ไหนกันบอริส?” ทูตโซเวียตไม่ได้คาดคั้นเอาคำตอบต่อไปแต่อย่างใด

สงครามในลาวกลายเป็นสงครามส่วนตัวของซุลลิแวนไปแล้ว เขาพยายามเก็บมันไว้เป็นความลับภายใต้หน้ากากว่าปฏิบัติตามสนธิสัญญาเจนีวา การที่เขาเก็บเรื่องนี้ไว้ให้ไกลหูไกลตาบุคคลภายนอก เพราะรู้ว่าการแสร้งทำเป็นเคารพในความเป็นกลางของลาวนั้นง่ายและดีกว่าการเข้าทำสงครามอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยวิธีนี้ ทั้งโซเวียตและอเมริกันก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากันอย่างเต็มรูปแบบและมีค่าใช้จ่ายในการต่อสู้กันอย่างลับๆที่น้อยกว่ามาก

ซุลลิแวนเองเป็นผู้มีส่วนร่วมคนหนึ่งในการเจรจาสันติภาพที่กรุงเจนีวาครั้งที่ ๒ ในปี ๒๕๐๕ ซุลลิแวนกีดกันกองทหารสหรัฐฯไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวในลาว ไม่นานหลังรับตำแหน่งเขาได้ส่งโทรเลขไปถึงวอชิงตันเสนอแนวคิดและให้เครดิตแก่ประธานคณะเสนาธิการทหารนายพลเลแมน เลมนิสเซอร์ ในการยับยั้งการแทรกซึมและส่งกำลังบำรุงผ่านเส้นทางโฮจิมินห์เทรล ซุลลิแวน เขาเสนอความคิดใหม่ในการใช้กำลังทางทหารเข้ายึดเวียดนามเหนือ

No comments: