Tuesday, April 28, 2009

ลำดับ๖๐๙.ยุทธการภูผาที(๑๐)

บทที่ ๑๐ น้ำแบ่ง

แลร์ได้พูดขึ้นเรียบๆแบบของเขาว่า เขาไม่เห็นด้วยกับแผนกการเข้ายึดน้ำแบ่ง แช็คลี่เอ่ยถามขึ้นว่าเหตุใดแลร์จึงคิดเช่นนั้น เพราะเขาเองคิดว่าพื้นที่แถบนั้นก็ไม่มีเส้นทางถนนสำหรับให้ข้าศึกใช้ลำเลียงทหารเข้ามาโจมตีได้โดยสะดวก

แลร์อธิบายว่าระยะทางบิน ๔๐-๕๐ ไมล์ จากน้ำแบ่งถึงเขตแดนเวียดนามเหนือนั้นถือว่าเป็นระยะทางที่ใกล้และกองกำลังขนาดใหญ่ของฝ่ายลาวที่ตั้งมั่นอยู่ที่นั้นจะกลายเป็นเป้านิ่งรอการโจมตีของทหารเวียดนามเหนือที่กำลังเหนือกว่า

แช็คลี่ยังคงนิ่งฟังไม่โต้ตอบ

แลร์กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้แล้ว ก็ยังมีปัญหาเรื่องภูมิประเทศซึ่งน้ำแบ่งตั้งอยู่ในหุบเขา การจะเข้ายึดครองสนามบิน จำเป็นจะต้องเข้ายึดเนินเขารอบๆ ไว้ด้วย ซึ่งหมายความว่าต้องการกำลังทหารจำนวนมาก อันจะทำให้เกิดปัญหาในเรื่องการส่งกำลังบำรุง ไม่มีนายทหารในกองทัพบกลาวที่มีความสามารถ พอจะดูแลกำลังบำรุงให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพได้ การทำสงครามที่ประกอบด้วยกองกำลังขนาดหลายกองพันนี้ หากขาดการสนับสนุนที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว ย่อมจะก่อให้เกิดปัญหาขึ้นอย่างแน่นอน

ส่วนหนึ่งของปัญหาเกิดจากการลักเล็กขโมยน้อย ทีเกิดขึ้นจนเป็นเรื่องปรกติในกองทัพลาว แม้ว่าเสบียงสนับสนุนจะถูกลำเลียงทางอากาศไปยังสนามบินในพื้นที่ แต่จำนวนเครื่องกระสุน ลูกปืนใหญ่และอาหารก็จะไม่ไปถึงมือของพวกที่อยู่แนวหน้าอย่างครบถ้วน และหากลูกกระสุนเกิดหมดกลางคัน ที่มั่นก็จะถูกข้าศึกเข้าถล่มจนยับเยิน

แช็คลี่ตั้งใจฟังสิ่งที่แลร์พูด ทว่าก็มิได้แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาให้เห็น เขากล่าวขอบใจที่แลร์สละเวลาบินมาร่วมประชุม

ไม่กี่อาทิตย์ต่อมา กองทหารของฝ่ายนิยมกษัตริย์ก็เข้ายึดน้ำแบ่ง โดยแทบจะปราศจากการขัดขวางตอบโต้จากฝ่ายข้าศึก แม้จะได้รับการเห็นชอบจากสถานทูตอเมริกัน ซึ่งเป็นผู้ดูแลเรื่องการจัดส่งกำลังบำรุง แต่ก็ต้องถือว่าชัยชนะหนนี้เป็นของกองทัพบกลาว และมันเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในสงครามที่ผ่านมาของพวกลาวลุ่ม

อย่างไรก็ตามที่ศูนย์ปฏิบัติการ ๔๘๐๒ ในอุดรฯ พวกซีไอเอยังคงไม่ไว้วางใจ และจับตามองสถานการณ์ที่น้ำแบ่งอยู่อย่างใกล้ชิด.

No comments: