Thursday, April 30, 2009

ลำดับ๖๒๒ยุทธการภูผาที(๒๓)

บทที่๒๓ ลมสงบก่อนพายุมาเยือน

ชนวนระเบิดชนิดทำงานด้วยกระแสไฟฟ้าที่ถูกติดตั้งภายในสถานีเรดาห์ถูกตรวจสอบการทำงานซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายครั้ง ไม่มีใครอยากให้อุปกรณ์ไฮเทคชิ้นนี้ตกอยู่ในมือของพวกโซเวียต ก่อนหน้านี้ไม่นาน เรือสอดแนมของอเมริกาลำหนึ่งชื่อว่าพอโบลถูกทหารเกาหลีเหนือตรวจจับได้ ถือเป็นความหายนะของหน่วยงานสืบราชการลับของอเมริกา เจ้าหน้าที่อเมริกันบนยอดภูผาที ต่างรู้ว่าเกมสงครามแย่งชิงอำนาจของสองมหาอำนาจกำลังก่อตัวขึ้นในสถานที่อื่นๆ นอกเหนือไปจากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของลาวและในเวียดนาม

เจ้าหน้าที่เทคนิคคนหนึ่ง ที่มีฉากหน้าเป็นพนักงานของบริษัทผลิตเครื่องบินล็อคฮีท ได้เดินทางมาจากอุดรฯ เพื่อปฏิบัติงานบนสถานีเรดาห์ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เกือบครึ่งหนึ่งของการโจมตีทางอากาศในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของลาวในเดือนกุมภาพันธ์ ถูกควบคุมโดยคอมมานโดคลับ เมื่อย่างเข้าเดือนมีนาคม ตัวเลขดังกล่าวกระโดดขึ้นเป็น ๙๐ เปอร์เซ็นต์ และเมื่อข้าศึกเคลื่อนใกล้เข้ามาเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศบนภูเขาก็เริ่มสงสัยว่าเขาควรจะอยู่ปฏิบัติงานอันสำคัญนี้ต่อไป หรือรีบหนีเอาตัวรอด อย่างไรก็ตามคอมมานโดคลับไม่ค่อยถูกใช้ในการโจมตีฮานอย แต่สถานีเรดาห์เองกลับตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของข้าศึก ช่างเทคนิคที่นั่นเริ่มตระหนักว่า ในตอนนี้อุปกรณ์เรดาห์อาจมีประโยชน์สูงสุดสำหรับนำมาใช้ป้องกันตัวของมันเองก็เป็นได้

บนยอดภูผาที ทีมเจ้าหน้าที่พลเรือนจากกองทัพอากาศรวมทั้งสิ้น ๑๖ คน เจ้าหน้าที่ชี้เป้าภาคพื้นดินคนหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ซีไอเออีก ๒ คนได้ประชุมกันเพื่อซักซ้อมแผนอพยพเป็นครั้งสุดท้าย(แม้จะได้มีความพยายามทำให้เป็นแผนที่ไม่ซับซ้อนแต่ท้ายที่สุดการอพยพก็จำเป็นต้องขอการอนุมัติจากซุลลิแวนเป็นครั้งสุดท้าย)

พวกเขานัดแนะกันว่า ภายหลังจากที่ระเบิดอุปกรณ์เรดาห์แล้ว พวกเขาจะเดินลงไปตามเนินเขา เพื่อไปรอเฮลิคอปเตอร์ที่บริเวณลานจอดติดกับตัวอาคารที่ทำการซีไอเอ แต่หากเฮลิคอปเตอร์ไม่มารับตามนัด เขาก็จะรอกันอยู่ในบริเวณตัวอาคารหลักด้านบน

สถานีเรดาห์ เรือนพักเจ้าหน้าที่ บังค์เกอร์กระสอบทรายและอาคารอื่นๆต่างกระจุกตัวอยู่ภายในบริเวณเนินกว้างบนแนวสันเขาด้านตะวันตก ห่างจากขอบหน้าผาเพียงไม่กี่หลา จากที่นั่น ในยามที่ปราศจากเมฆหนาบดบังทัศนวิสัยเบื้องหน้าพวกเขาจะเห็นภาพแนวเขาที่ทับซ้อนลดหลั่นกันไป แนวยอดไม้แลเห็นเป็นกระจุกๆไกลออกไป ด้านล่างบริเวณเนินเขาตรงหน้าผามีชะง่อนหินยื่นออกมาหลายจุด หนึ่งในนั้นยื่นออกห่างจากบริเวณยอดเขาไม่ถึง ๑๐ ฟุต เจ้าหน้าที่จากกองทัพอากาศได้นำตาข่ายไปติดไว้บริเวณนั้นเพื่อช่วยการปีนป่ายลงไปทางด้านนั้น เขาตกลงกันว่าตรงจุดนั้นน่าจะเป็นตำแหน่งถอยหนีไปหลบในยามฉุกเฉิน เพราะมีแนวสันเขาเป็นปราการธรรมชาติช่วยป้องกันวิถีกระสุนปืนใหญ่ฝ่ายข้าศึกที่อาจยิงมาจากทางทิศตะวันออก

No comments: