Wednesday, April 29, 2009

ลำดับ๖๑๓ยุทธการภูผาที(๑๔)

บทที่๑๔ โจมตีทางอากาศ

สิ่งหนึ่งที่เซ็กคอร์ดหรือใครคนอื่นๆไม่คาดคิด คือโอกาสที่เวียดนามเหนือจะหาญกล้านำกำลังทางอากาศของพวกเขามาใช้ในการโจมตีภูผาที ช่วงบ่ายอ่อนๆของวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๑๑ เครื่องบินรบลำตัวสีเขียวเข้ม ๔ ลำถูกตรวจพบขณะกำลังบินเกาะกลุ่มมาทางตะวันออกเฉียงใต้ของซำทอง เครื่องบินสองลำแยกกลุ่มมาบินวนอยู่เหนือซำทอง ส่วนอีกสองเครื่องที่เหลือบินมุ่งหน้าต่อไปภูผาที ทั้งสี่เป็นเครื่องบินรุ่นโบราณ มีปีกสองชั้นซ้อนกัน แบบที่ใช้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๑

นักบินพาเครื่องบินวนผ่านภูเขา ๓ เที่ยวเครื่องหนึ่งปล่อยลูกระเบิดลงมา ส่วนเครื่องที่เหลือยิงจรวดและปืนกลอากาศเข้าใส่ฐานที่มั่นหลังคาสังกะสีใหม่เอี่ยมวาววับของอาคารทำการซีไอเอที่อยู่ใกล้กับลานจอดเฮลิคอปเตอร์ มีเพียงจรวจด ๑ ลูกที่ยิงเข้าใส่อาคารสถานีเรดาห์ แต่ก็พลาดเป้าเลยข้ามหลังคาไปตกยังหุบเขาเบื้องล่าง นักบินได้ระดมยิงเข้าใส่หมู่บ้านม้งบนภูเขา สังหารหญิงชาวบ้านไป ๒ คนและมีชายมังอีกสองคนได้รับบาดเจ็บ

บนพื้นดินเบื้องล่าง เจอร์รี แดเนียล เจ้าหน้าที่ภาคสนามคนหนึ่งของซีไอเอ เปิดฉากยิงใส่เครื่องบินด้วยปืนเอ็ม ๑๖ ประจำกายของเขา เครื่องบินลำหนึ่งตกลงสู่พื้นดินตรงเชิงเขาด้านหลังจนไฟลุกท่วม นักบินชอปเปอร์เครื่องหนึ่งของแอร์อเมริกาที่จอดอยู่ที่ลานจอด รีบนำเครื่องขึ้น แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าชอปเปอร์ของเขาสามารถบินได้เร็วกว่าเครื่องบินข้าศึกเสียอีก นักบินนำเครื่องไล่กวดเครื่องบินลำที่เหลือ ที่กำลังพยายามบินหนีเข้าเขตเวียดนามเหนือ ภายในห้องโดยสารพลปืนประจำ ชอปเปอร์ปลดเซฟปืนกล เมื่อนำชอปเปอร์เข้าประกบจนชิดเครื่องบินข้าศึก พลปืนก็เปิดฉากยิงจากประตูด้านข้าง เครื่องบินปีกสองชั้นสูญเสียระดับ จากนั้นตกลงกระแทกพื้นดินเบื้องล่าง เศษซากของเครื่องกระจายไปทั่วบริเวณ ส่วนเครื่องบินสองลำที่เหลือสามารถเล็ดรอดหนีกลับไปได้

เครื่องบินปีกสองชั้นคือเครื่องแบบเอเอ็ม-2 โคล์ท จากโรงงานเครื่องบินแอนโทนอฟของโซเวียต ปีกของเครื่องบินรุ่นนี้ทำจากการนำผ้าใบมาคลุมเข้ากับโครงไม้ เป็นของโบราณสำหรับสะสมมากกว่าจะนำมาใช้สู้รบ นักล่าของสะสมรีบเดินทางไปยังจุดที่เครื่องตก และเก็บชิ้นส่วนหางเครื่องบินที่มีหมายเลขเครื่องติดอยู่ ส่วนหางเครื่องบินถูกนำมาแขวนไว้ในบาร์ของแอร์อเมริกาที่ล่องแจ้ง ส่วนลูกระเบิดที่ถูกทิ้งลงจากเครื่องบินปรากฏว่าเป็นลูกปืนครกที่ถูกนำมาดัดแปลง แบบที่โทนี่ โพเคยทำในตอนถูกข้าศึกซุ่มยิงเมื่อ ๓ ปีก่อน

พวกเวียดนามเหนือไม่เคยนำกำลังทางอากาศมาใช้ในสมรภูมิแห่งนี้มาก่อน และตอนนี้ก็คงล้มเลิกความคิดที่จะนำเครื่องบินปีกสองชั้นของพวกเขาออกมาใช้งานอีกเป็นแน่

การนำเครื่องบินปีกสองชั้นเข้าโจมตีภูผาทีในครั้งนี้ ก็ยังเป็นปริศนาให้ขบคิดกันต่อไป แต่ทว่าในตอนนั้นพวกอเมริกันได้หันไปให้ความสนใจการเข้าโจมตีน้ำแบ่งโดยกองทหารเวียดนามเหนือ ซึ่งขณะนั้นเป็นวันสุดท้ายของการสู้รบพอดี อย่างไรก็ตามชัยชนะของฝ่ายนิยมกษัตริย์ที่น้ำแบ่งในครั้งนี้ได้นำมาซึ่งหายนะต่อมาในภายหลัง.

No comments: