Friday, April 17, 2009

ลำดับ๕๕๖.เหตุการณ์หลังการตั้งรัฐบาลผสม(๒)

บทที่ ๒

เมื่อรัฐบาลผสม ๓ ฝ่ายตั้งขึ้นแล้ว เจ้าสุวรรณภูมาจึงโยกย้ายรัฐบาลของตนจากแก่งไก่ทุ่งไหหินมายังเวียงจันทน์ ส่วนฝ่ายแนวลาวรักชาติที่ถูกกำหนดให้เอาทหารมาร่วมกับกองทัพแห่งชาติเพียง ๑,๐๐๐ คนนั้นก็ไม่แน่ใจว่าประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอยอย่าง ๒ กองพันในปี ๒๕๐๐ เจ้าสุภานุวงศ์จึงนำทหารมาด้วยจำนวนหนึ่งเพื่อให้ความอารักขาฝ่ายตนในเวียงจันทน์ เพราะประสบการณ์คราวรัฐบาลผสมครั้งแรกท่านยังจำได้ดี

ในช่วงฤดูร้อนของปี ๒๕๐๕ กระทั่งวันที่ ๖ ตุลาคม ปีเดียวกันนั้น เป็นเส้นตายของการถอนกำลังทหารต่างชาติออกจากลาว ตามข้อตกลงเจนีวา ทหารอเมริกันรวม ๖๖๐ คน รวมทั้งครูฝึกจากหน่วยรบพิเศษ และที่ปรึกษาทางทหารชาวโซเวียต ต่างดำเนินทำการถอนกำลังของตนออกจากลาว ส่วนพวกเวียดนามเหนือได้ถอนกำลังจำนวน ๔๐ คน

อเมริกากำลังทุ่มกำลังเงินและกำลังคนส่วนใหญ่ในสมรภูมิการรบในเวียดนาม หากความพยายามของอเมริกาในเวียดนามใต้บรรลุผลสมประสงค์ อเมริกาเชื่อว่าลาวจะสามารถสะสางปัญหาในประเทศได้ด้วยตนเอง

ถึงขณะนั้นอเมริกามีที่ปรึกษาทางทหารและกองกำลังสนับสนุนอื่นๆเกือบ ๑๐,๐๐๐ คน ในเวียดนามใต้ ทั้งนี้ยังไม่นับรวมพวกนักบินจากกองทัพอากาศอีกจำนวนหนึ่งที่ปฏิบัติภารกิจลับอยู่ โดยใช้เครื่องบินใบพัดรุ่นเก่าที่ติดตรากองทัพเวียดนามใต้ ในบริเวณที่ราบสูงภาคกลางเลาะเรื่อยตามเขตภูเขาตะเข็บชายแดนลาวตอนใต้ ซีไอเอ ได้จัดตั้งกองกำลังของชาวเขาในพื้นที่ คือพวกมองเทงการ์ดในแบบเดียวกันกับพวกม้งในลาว จะต่างกันตรงที่อเมริกันในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพวกกรีนแบเรต์ ที่ไซ่ง่อน นครหลวงของเวียดนามใต้ สายลับซีไอเอและคนของสถานทูตอเมริกัน ได้แผ่อิทธิพลครอบงำผู้นำเวียดนามใต้ คือ ประธานาธิบดี โง ดิน เดียม

โง ดิน เดียม มีพฤติกรรมฉ้อฉลซึ่งสร้างความบาดหมางแก่หลายฝ่ายในเวียดนามใต้ นอกจากนี้เขาต้องเผชิญกับเวียดกงรวมทั้งกำลังทหารเวียดนามเหนือที่ขณะนั้นได้แทรกซึมเข้ามาในเวียดนามใต้

หากเปรียบไปแล้ว เวียดนามใต้ก็เหมือนผู้ป่วยอาการหนัก อย่างไรก็ตามมันคือเวทีความขัดแย้งทางการเมืองระดับโลก อเมริกามองเวียดนามใต้ในฐานะดินแดนศักดิสิทธิ์ในสงครามศักดิ์สิทธิ์ สมรภูมิที่ต้องเข้าชิงชัย ส่วนลาวดินแดนห่างไกลและอึมครึมกำลังค่อยๆ เลือนหายจากความสนใจ

No comments: