Wednesday, April 15, 2009

ลำดับ๕๔๖.ปฏิบัติการโมเมนตัม(๓)

บทที่ ๓
พวกอเมริกันยังคงหลั่งไหลเข้ามาในลาวโดยที่ บิล แลร์ไม่ได้ร้องขอ พวกที่เข้ามามีทั้งเจ้าหน้าที่รบพิเศษของซีไอเอ เจ้าหน้าที่จากกองทัพบก มีความพยายามจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กรีน แบเรต์ ที่จะเข้ามาควบคุมการฝึกพวกม้ง จนเกิดการงัดข้อกับแลร์ ในที่สุดก็ต้องประนีประนอมกัน โดยทีมฝึกปฏิบัติการพิเศษเดินทางไปกองบัญชาการใหญ่ของวังเปา เพื่อร่วมกับคนของซีไอเอ

แลร์ยังคงเชื่อว่าพวกพารูมีความเหมาะสมกว่าในการฝึกพวกม้ง เพราะเป็นชาวเอเชียด้วยกัน สามารถกลมกลืนกับคนท้องถิ่น ไม่ต้องใช้ล่ามในการสื่อสาร และการศึกษาของพวกพารูก็ไม่น้อยหน้าพวกอเมริกัน ในช่วงปลาย ๒๔๙๓ ทั้งแลร์และเจ้าหน้าที่พารูได้ผ่านการฝึกหลักสูตรเรนเจอร์จากฟอร์ด เบนนิงในจอร์เจียและผ่านการฝึกหลักสูตรชั้นสูงทางยุทธวิธีในระดับกองร้อยและกองพัน

ช่วงต้นปี ๒๕๐๔ ปฏิบัติการโมเมนตัมดำเนินไปด้วยดีขยายตัวรวดเร็ว ทันทีที่ม้งหนึ่งพันคนแรกสิ้นสุดการฝึก ก็มีการอนุมัติพวกพวกที่เหลือต่อไป ไม่ช้าก็มีพวกม้งผ่านการหลักสูตรการฝึกเป็นจำนวนหมื่น

ที่กองบัญชาการใหญ่ของพารู อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หนุ่มชาวม้งหัวกะทิได้เข้าอบรมในหลักสูตรผู้นำและการรับส่งวิทยุ ส่วนในพื้นที่ชนบทของลาวพวกพารูไทยจำนวน ๑ ร้อยคน แบ่งออกเป็นทีมๆละ ๕ คนดำเนินการฝึกพวกม้งโดยมีอเมริกันราว ๑๐ กว่าคนคอยกำกับดูแล

ที่โอกินาวา ญี่ปุ่น คลังแสงของซีไอเอได้มีการเตรียมบรรจุหีบห่ออาวุธยุทโธปกรณ์และเครื่องกระสุนสำหรับใช้ในการฝึกไว้แล้ว สายการบินพลเรือนที่ได้สัมปทานคือแอร์อเมริกา และ เธอร์ดแอนด์ซัน ได้ลำเลียงอาวุธมาทิ้งร่มลงยังลานดินที่ถูกปรับแต่งเป็นจุดทิ้งร่ม รู้จักกันในนามว่า พิกัดลิมา สายการบินพลเรือนทั้งสองยังมีหน้าที่คอยลำเลียงเจ้าหน้าที่อเมริกันและพวกพารูไปตามสนามบินขรุขระบนภูเขา โดยเครื่องชอปเปอร์ H-34 และเครื่องบินลำเลียงขนาดเล็ก เฮลิโอ

ทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้ดี เครือข่ายได้ขยายเติบโตขึ้น ผู้นำหมู่บ้านทยอยกันเข้าร่วมขบวนการ หน่วยลาดตระเวนประจำหมู่บ้านถือปืนเหลือเก็บของอเมริกัน ออกซุ่มโจมตีก่อกวนกองทหารข้าศึกที่ผ่านเข้าใกล้ละแวกหมู่บ้าน ก่อนที่จะอาศัยแนวป่าแฝงกายหลบหนีอย่างไร้ร่องรอย พวกม้งยังคงครอบครองพื้นที่ป่าเขาบนแผ่นดินสูง ทหารฝ่ายซ้ายและฝ่ายกลางยังไม่สามารถตอบโต้การโจมตีแบบกองโจรของพวกม้งได้ อย่างไรก็ดี แลร์ยังคงกังวลถึงอนาคตข้างหน้าเพราะเขารู้ดีว่าขณะนั้นกองทหารของเวียดนามเหนือที่น่าเกรงขามยังไม่ได้เข้าสู่เวทีต่อสู้.

No comments: