สงครามลับของ CIA ในลาว
บทที่ ๖ ฝรั่งเศสถอนตัว สหรัฐเข้ามาแทน
หลังจากที่ฝรั่งเศสเห็นลางพ่ายแพ้อย่างย่อยยับที่เดียนเบียนฟู จึงนำไปสู่การเจรจาสงบศึกที่เจนีวาในปี ๒๔๙๗ ซึ่งเป็นผลจากที่ขบวนการเวียดมินห์รุกทางการทูตอย่างชาญฉลาดบังคับให้ฝรั่งเศสต้องนั่งโต๊ะเจรจากับเวียดนาม รวมทั้งลาวและกัมพูชาระหว่างวันที่ ๒๖ เมษายน ถึง ๒๑ กรกฎาคม ๒๔๙๗ ในหัวข้อเจรจาเรื่องปัญหาอินโดจีนโดยสหภาพโซเวียต และสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นตัวตั้งตัวตีดึงเอาสหรัฐอเมริกา อังกฤษและฝรั่งเศส รวมทั้งรัฐบาลเบาได๋เวียดนามใต้ที่มีโงดินห์เดียมเป็นนายกรัฐมนตรีมาเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย
ในระหว่างที่เจรจาเพื่อสงบศึกอยู่นั้น ดุลกำลังในสนามรบอินโดจีน ฝรั่งเศสกำลังเสียดุลอย่างมาก เดียนเบียนฟูป้อมปราการที่แข็งแกร่งที่สุดที่กำลังคอยเวลาถูกตีแตก ในช่วงที่ฝรั่งเศสเริ่มต้นต่อสู้ในทางการทหารกับเวียดมินห์และแนวลาวอิสระ สหรัฐอเมริกาได้ให้เงินช่วยเหลือฝรั่งเศสทำสงครามปีละไม่น้อยกว่า ๕๐๐ ล้านดอลล่าร์ และก็คิดว่าแค่นั้นก็พอที่ฝรั่งเศสจะชนะและเป็นเจ้าอาณานิคมต่อไปได้ แต่หลายปีผ่านไปสหรัฐฯก็กระวนกระวายใจและยิ่งหนักขึ้นเมื่อสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ถูกสถาปนาขึ้นในปี ๒๔๙๒ และต่อมารัฐบาลลาวต่อต้านได้ปลดปล่อยซำเหนือและพงสาลี
ดังนั้นในระหว่างที่สหภาพโซเวียตกับสาธารณรัฐาประชาชนจีนกำลังผลักดันให้เปิดเจรจาปัญหาอินโดจีนอยู่นั้น สหรัฐอเมริกากำลังวิ่งเต้นจะเปลี่ยนสงครามอินโดจีนให้กลายเป็นเหมือนสงครามเกาหลี โดยพยายามชักจูงหลายประเทศให้เข้าร่วมในสงครามนั้น แต่ไม่มีใครเล่นด้วย
ในที่สุดการเจรจาปัญหาอินโดจีนที่เจนีวาก็ได้ลงนามกันในวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๔๙๗ แต่สหรัฐอเมริกาโดยนายจอห์นฟอสเตอร์ ดัลเลส ไม่ยอมลงนามร่วมในข้อตกลงฉบับนั้น และนอกจากจะไม่ยอมลงนามร่วมแล้ว ยังได้ออกแถลงการณ์แยกออกมาเป็นส่วนหนึ่งต่างหาก เป็นการสร้างเงื่อนไขที่จะเข้าแทรกแซงในอินโดจีนต่อไป แถลงการณ์นั้นระบุว่า “สหรัฐอเมริกาจะไม่ใช้กำลังเพื่อล้มล้างข้อตกลงกรุงเจนีวาครั้งนี้ แต่ในขณะเดียวกันสหรัฐอเมริกาสงวนสิทธิ์ที่จะพิจารณาว่า การละเมิดข้อตกลงดังกล่าวเพื่อรุกรานอีกฝ่ายหนึ่งนั้น สหรัฐอเมริกาย่อมถือว่าเป็นอันตรายต่อสันติภาพและต่อความมั่นคงระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง”
ปัญหาอินโดจีนก็น่าจะจบสิ้น ในเมื่อฝรั่งเศสซึ่งเป็นเจ้าของอาณานิคมได้มอบอำนาจอธิปไตยให้กับอินโดจีน และถอนกำลังทหารออกจากอินโดจีนตามข้อตกลงสัญญาเจนีวา ๒๔๙๗ นั้น
แต่การก็หาเป็นเช่นนั้นไม่ ความไม่สงบในอินโดจีนหรือสงครามล้างผลาญในอินโดจีนยังคงดำเนินต่อไปอีกถึง ๒๑ ปีนับแต่ ๒๔๙๘-๒๕๑๘
สหรัฐอเมริกาคือตัวจักรสำคัญในการสืบต่อสงครามอินโดจีนจากฝรั่งเศส พลจัตวา เจมส์ กาวิน นายทหารเสนาธิการผู้ช่วยของนายพลริดจ์เวย์ ได้ตำหนิฝรั่งเศสที่ถอนตัวออกจากอินโดจีนไว้ในหนังสือ cirsis now ว่า “การกระทำเช่นนั้นของฝรั่งเศสไม่ฉลาดเลย และทำลงไปเพื่อผลประโยชน์เฉพาะตนยิ่งกว่าที่จะให้เป็นประโยชน์ต่อโลกเสรี จึงเป็นหน้าที่ของสหรัฐอเมริกา ที่จะเข้ารับภาระในการสู้รบกับคอมมิวนิสต์ในบริเวณนั้น”
หลังจากที่ฝรั่งเศสเห็นลางพ่ายแพ้อย่างย่อยยับที่เดียนเบียนฟู จึงนำไปสู่การเจรจาสงบศึกที่เจนีวาในปี ๒๔๙๗ ซึ่งเป็นผลจากที่ขบวนการเวียดมินห์รุกทางการทูตอย่างชาญฉลาดบังคับให้ฝรั่งเศสต้องนั่งโต๊ะเจรจากับเวียดนาม รวมทั้งลาวและกัมพูชาระหว่างวันที่ ๒๖ เมษายน ถึง ๒๑ กรกฎาคม ๒๔๙๗ ในหัวข้อเจรจาเรื่องปัญหาอินโดจีนโดยสหภาพโซเวียต และสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นตัวตั้งตัวตีดึงเอาสหรัฐอเมริกา อังกฤษและฝรั่งเศส รวมทั้งรัฐบาลเบาได๋เวียดนามใต้ที่มีโงดินห์เดียมเป็นนายกรัฐมนตรีมาเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย
ในระหว่างที่เจรจาเพื่อสงบศึกอยู่นั้น ดุลกำลังในสนามรบอินโดจีน ฝรั่งเศสกำลังเสียดุลอย่างมาก เดียนเบียนฟูป้อมปราการที่แข็งแกร่งที่สุดที่กำลังคอยเวลาถูกตีแตก ในช่วงที่ฝรั่งเศสเริ่มต้นต่อสู้ในทางการทหารกับเวียดมินห์และแนวลาวอิสระ สหรัฐอเมริกาได้ให้เงินช่วยเหลือฝรั่งเศสทำสงครามปีละไม่น้อยกว่า ๕๐๐ ล้านดอลล่าร์ และก็คิดว่าแค่นั้นก็พอที่ฝรั่งเศสจะชนะและเป็นเจ้าอาณานิคมต่อไปได้ แต่หลายปีผ่านไปสหรัฐฯก็กระวนกระวายใจและยิ่งหนักขึ้นเมื่อสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ถูกสถาปนาขึ้นในปี ๒๔๙๒ และต่อมารัฐบาลลาวต่อต้านได้ปลดปล่อยซำเหนือและพงสาลี
ดังนั้นในระหว่างที่สหภาพโซเวียตกับสาธารณรัฐาประชาชนจีนกำลังผลักดันให้เปิดเจรจาปัญหาอินโดจีนอยู่นั้น สหรัฐอเมริกากำลังวิ่งเต้นจะเปลี่ยนสงครามอินโดจีนให้กลายเป็นเหมือนสงครามเกาหลี โดยพยายามชักจูงหลายประเทศให้เข้าร่วมในสงครามนั้น แต่ไม่มีใครเล่นด้วย
ในที่สุดการเจรจาปัญหาอินโดจีนที่เจนีวาก็ได้ลงนามกันในวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๔๙๗ แต่สหรัฐอเมริกาโดยนายจอห์นฟอสเตอร์ ดัลเลส ไม่ยอมลงนามร่วมในข้อตกลงฉบับนั้น และนอกจากจะไม่ยอมลงนามร่วมแล้ว ยังได้ออกแถลงการณ์แยกออกมาเป็นส่วนหนึ่งต่างหาก เป็นการสร้างเงื่อนไขที่จะเข้าแทรกแซงในอินโดจีนต่อไป แถลงการณ์นั้นระบุว่า “สหรัฐอเมริกาจะไม่ใช้กำลังเพื่อล้มล้างข้อตกลงกรุงเจนีวาครั้งนี้ แต่ในขณะเดียวกันสหรัฐอเมริกาสงวนสิทธิ์ที่จะพิจารณาว่า การละเมิดข้อตกลงดังกล่าวเพื่อรุกรานอีกฝ่ายหนึ่งนั้น สหรัฐอเมริกาย่อมถือว่าเป็นอันตรายต่อสันติภาพและต่อความมั่นคงระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง”
ปัญหาอินโดจีนก็น่าจะจบสิ้น ในเมื่อฝรั่งเศสซึ่งเป็นเจ้าของอาณานิคมได้มอบอำนาจอธิปไตยให้กับอินโดจีน และถอนกำลังทหารออกจากอินโดจีนตามข้อตกลงสัญญาเจนีวา ๒๔๙๗ นั้น
แต่การก็หาเป็นเช่นนั้นไม่ ความไม่สงบในอินโดจีนหรือสงครามล้างผลาญในอินโดจีนยังคงดำเนินต่อไปอีกถึง ๒๑ ปีนับแต่ ๒๔๙๘-๒๕๑๘
สหรัฐอเมริกาคือตัวจักรสำคัญในการสืบต่อสงครามอินโดจีนจากฝรั่งเศส พลจัตวา เจมส์ กาวิน นายทหารเสนาธิการผู้ช่วยของนายพลริดจ์เวย์ ได้ตำหนิฝรั่งเศสที่ถอนตัวออกจากอินโดจีนไว้ในหนังสือ cirsis now ว่า “การกระทำเช่นนั้นของฝรั่งเศสไม่ฉลาดเลย และทำลงไปเพื่อผลประโยชน์เฉพาะตนยิ่งกว่าที่จะให้เป็นประโยชน์ต่อโลกเสรี จึงเป็นหน้าที่ของสหรัฐอเมริกา ที่จะเข้ารับภาระในการสู้รบกับคอมมิวนิสต์ในบริเวณนั้น”
No comments:
Post a Comment