Tuesday, March 24, 2009

ลำดับ๕๑๘.แหกคุกโพนเค็งบันลือโลก(๖)

บทที่ ๖ ภูมี หน่อสวันขึ้นมาแทนผุย ชนะนิกร

เจ้าสุภานุวงศ์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่างประเทศในเวลาต่อมา ตอนหนึ่งว่า

“แรกๆ พวกผู้คุมเอาข่าวมาให้เรา ในฐานะที่พวกเขาเป็นสารวัตรทหาร จึงรู้เรื่องราวดีมาก ในไม่ช้าเราก็สามารถประมวลเรื่องราวภายในลาวและข่าวทั่วโลกด้วย ต่อมาพวกเขาก็ทำหน้าที่เป็นผู้ส่งข่าวให้เรา เราจึงสามารถติดต่อกับองค์การจัดตั้งของเราได้อีก และก็เริ่มชี้นำขบวนการเคลื่อนไหวทั้งในเมืองและชนบทจากหน่วยพรรคภายในคุกนั้นเอง เราค่อยๆสร้างขบวนการของเราขึ้นใหม่ จนกระทั่งมาถึงจุดที่ว่า เราสามารถจัดชุมนุมมหาชนจำนวนมากขึ้นในเวียงจันทน์แล้วแสดงประชามติสนับสนุนเราได้

พวกผู้คุมมาเล่ารายละเอียดให้เราฟังถึงการเคลื่อนไหวของประชาชนและเจ้าหน้าที่ต่างๆ มีปฏิกิริยาอย่างไรในเรื่องนี้เราได้ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ต้องการจะนำพวกเราขึ้นศาลเพื่อพิจารณาคดี เพราะเกรงว่ามหาชนจะเดินขบวน คัดค้าน กำหนดการพิจารณาจึงเลื่อนแล้วเลื่อนอีก”

ในระหว่างนั้นภายในรัฐบาลผุย ชนะนิกร มีความขัดแย้งระหว่างผุย ชนะนิกร กับภูมี หน่อสวัน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงป้องกันประเทศ ความขัดแย้งระหว่างผุยกับภูมี ความจริงมีมานานแล้ว เพราะต่างแย่งกันที่จะเป็นสมุนตัวโปรดของ ซี.ไอ.เอ. พอดีในช่วงนั้นท้ายกระต่าย โดนสะโสลิด ล้มป่วยและตายในเวลาต่อมา ผุยจึงเตะภูมีพ้นไปจากรัฐบาลในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๐๒ แต่ ๒๔ ชั่วโมงต่อมานั้นเอง ภูมี หน่อสวันก็ทำรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลผุย ชนะนิกรลงแล้วเข้ากุมอำนาจแทน และแต่งตั้งท้าวกุ อภัย เป็นนายกรัฐมนตรีและต่อมาเปลี่ยนเป็นเจ้าสมสนิท

การทำรัฐประหารของภูมี หน่อสวัน ครั้งนี้ ผ่านความเห็นชอบและสนับสนุนจาก ซี.ไอ.เอ.ที่มีเป้าหมายทางยุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนการทำสงครามในลาว เพราะในแฟ้มประวัติของภูมี หน่อสวัน ที่อยู่ในมือ ซี.ไอ.เอ.นั้น ระบุว่าภูมี หน่อสวันเป็นหลานของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ สมุนตัวหนึ่งที่จงรักภักดีต่อจักรวรรดินิยมอเมริกา ซี.ไอ.เอ.จึงหวังว่าน้าหลานคงจะให้ความช่วยเหลือสนับสนุนกัน แล้วความหวังของ ซี.ไอ.เอ.ก็เป็นจริงในเวลาต่อมา

No comments: