สงครามลับของ CIA ในลาว
บทที่ ๒๐ การเข้ามาของจอมฟัสซิสต์ภูมี หน่อสวัน
เดือนพฤษภาคม ๒๕๐๑ รัฐบาลผสม ๒ ฝ่าย คือรัฐบาลฝ่ายราชอาณาจักรและฝ่ายรัฐบาลลาวต่อต้าน(ปเทดลาว) ได้จัดให้มีการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรเพิ่มเติมจำนวน ๒๑ ที่นั่ง ผลปรากฏว่าแนวลาวรักชาติของเจ้าสุภานุวงศ์ซึ่งส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ๑๐ คน ได้รับเลือกตั้งถึง ๙ คน ส่วนท้ายกระต่ายกับพวกส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง ๒๖ คน ได้รับเลือกตั้ง ๔ คน ฝ่ายที่สนับสนุนท้ายผุย ชนะนิกร ไม่ได้รับเลือกตั้งเลย พรรคสันนิบาตของท้าวกีนิน พลเสนา ซึ่งเป็นพันธมิตรกับแนวลาวรักชาติได้รับเลือกตั้ง ๔ คนและพรรคอื่นๆ ได้รับเลือกตั้ง ๔ คน
ในการเลือกตั้งครั้งนี้เจ้าสุภานุวงศ์ ได้ลงสมัครในเขตนครเวียนจันทน์ และได้รับคะแนนมาเป็นที่หนึ่ง ชนะผู้รับสมัครคนอื่นๆ อย่างท่วมท้น อันเป็นปรอทวัดให้เห็นถึงความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อท่านและต่อแนวลาวรักชาติ
ผลการเลือกตั้งเพิ่มเติมที่เจ้าสุภานุวงศ์และแนวลาวรักชาติได้ประสบชัยชนะอย่างงดงามเช่นนี้ ถ้าหากจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปีถัดไป ซึ่งจะมีที่นั่งทั้งหมดในสภาจำนวน ๖๙ ที่นั่ง ก็ให้เป็นที่วิตกของสหรัฐอเมริกา ว่าแนวลาวรักชาติของเจ้าสุภานุวงศ์จะได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นเสียงส่วนใหญ่ในสภาอย่างแน่นอน สหรัฐอเมริกาจึงเดินหน้าในการบ่อนทำลายรัฐบาลผสมและข้อตกลงเจนีวาต่อไป
เป็นที่เห็นได้ชัดแจ้งแล้วว่า ท้าวกระต่ายไม่เป็นประโยชน์อันใดอีกต่อไป มีค่าเท่ากับหมาเขี้ยวหักของนายพราน ภายในชั่วเวลาสอง-สามสัปดาห์ของการเลือกตั้งเพิ่ม ก็ได้มีการเล่นกลกันอีกครั้งหนึ่งโดยมาในนามของคณะกรรมการเพื่อป้องกันผลประโยชน์แห่งชาติ ที่จะเรียกโดยย่อว่า ก.ป.ช. พร้อมด้วยผู้นำคนใหม่ที่อเมริกาคัดสรรแล้วเช่นเคย คณะกรรมการชุดนี้ประกอบด้วยนายทหารกลุ่มหนึ่งซึ่งมีความคิดจิตใจเป็นฟัสซิสต์ หัวหน้าได้แก่ นายพลภูมี หน่อสวัน หลานของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้เผด็จการของไทยอดีตนายกรัฐมนตรีที่คอร์รัปชั่นและบ้ากามที่สุดคนหนึ่งของโลก.
เดือนพฤษภาคม ๒๕๐๑ รัฐบาลผสม ๒ ฝ่าย คือรัฐบาลฝ่ายราชอาณาจักรและฝ่ายรัฐบาลลาวต่อต้าน(ปเทดลาว) ได้จัดให้มีการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรเพิ่มเติมจำนวน ๒๑ ที่นั่ง ผลปรากฏว่าแนวลาวรักชาติของเจ้าสุภานุวงศ์ซึ่งส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ๑๐ คน ได้รับเลือกตั้งถึง ๙ คน ส่วนท้ายกระต่ายกับพวกส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง ๒๖ คน ได้รับเลือกตั้ง ๔ คน ฝ่ายที่สนับสนุนท้ายผุย ชนะนิกร ไม่ได้รับเลือกตั้งเลย พรรคสันนิบาตของท้าวกีนิน พลเสนา ซึ่งเป็นพันธมิตรกับแนวลาวรักชาติได้รับเลือกตั้ง ๔ คนและพรรคอื่นๆ ได้รับเลือกตั้ง ๔ คน
ในการเลือกตั้งครั้งนี้เจ้าสุภานุวงศ์ ได้ลงสมัครในเขตนครเวียนจันทน์ และได้รับคะแนนมาเป็นที่หนึ่ง ชนะผู้รับสมัครคนอื่นๆ อย่างท่วมท้น อันเป็นปรอทวัดให้เห็นถึงความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อท่านและต่อแนวลาวรักชาติ
ผลการเลือกตั้งเพิ่มเติมที่เจ้าสุภานุวงศ์และแนวลาวรักชาติได้ประสบชัยชนะอย่างงดงามเช่นนี้ ถ้าหากจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปีถัดไป ซึ่งจะมีที่นั่งทั้งหมดในสภาจำนวน ๖๙ ที่นั่ง ก็ให้เป็นที่วิตกของสหรัฐอเมริกา ว่าแนวลาวรักชาติของเจ้าสุภานุวงศ์จะได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นเสียงส่วนใหญ่ในสภาอย่างแน่นอน สหรัฐอเมริกาจึงเดินหน้าในการบ่อนทำลายรัฐบาลผสมและข้อตกลงเจนีวาต่อไป
เป็นที่เห็นได้ชัดแจ้งแล้วว่า ท้าวกระต่ายไม่เป็นประโยชน์อันใดอีกต่อไป มีค่าเท่ากับหมาเขี้ยวหักของนายพราน ภายในชั่วเวลาสอง-สามสัปดาห์ของการเลือกตั้งเพิ่ม ก็ได้มีการเล่นกลกันอีกครั้งหนึ่งโดยมาในนามของคณะกรรมการเพื่อป้องกันผลประโยชน์แห่งชาติ ที่จะเรียกโดยย่อว่า ก.ป.ช. พร้อมด้วยผู้นำคนใหม่ที่อเมริกาคัดสรรแล้วเช่นเคย คณะกรรมการชุดนี้ประกอบด้วยนายทหารกลุ่มหนึ่งซึ่งมีความคิดจิตใจเป็นฟัสซิสต์ หัวหน้าได้แก่ นายพลภูมี หน่อสวัน หลานของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้เผด็จการของไทยอดีตนายกรัฐมนตรีที่คอร์รัปชั่นและบ้ากามที่สุดคนหนึ่งของโลก.
No comments:
Post a Comment