บทที่ ๒
ท่านกีนิน พลเสนาหัวหน้าพรรคสันติภาพ-เป็นกลาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมาจากฝ่ายเป็นกลางคือฝ่ายเจ้าสุวรรณภูมา แต่ก็ไม่เห็นด้วยในการกระทำของเจ้สุวรรณภูมาต่อฝ่ายแนวลาวรักชาติหรือฝ่ายปเทดลาว เป็นที่รู้กันดีว่าท่านกีนิน เป็นคนซื่อสัตย์สุจริต และเชิดชูนโยบายสันติภาพเป็นกลางจึงมีความผูกพันอย่างแน่นแฟ้นกับฝ่ายปเทดลาว ท่านจึงเป็นเป้าหมายสำคัญเป้าหมายหนึ่งของซีไอเอ ที่จะต้องซื้อตัว เช่นเดียวกับเจ้าสุวรรณภูมา กองแลและคนใหญ่ๆโตๆ ในลาวขณะนั้นอีกจำนวนมาก ที่ยังชีพเสพย์สุขอยู่ด้วยเงินของซีไอเอ
กองแลนั้นหลังจากได้รับคำสรรเสริญเยินยอและอามิส อุดมการณ์ก็เปลี่ยนไป กองบัญชาการของเขาได้ถูกทหารของภูมีแทรกซึมเข้าไป คำสั่งแปลกๆได้ออกไปโดยใช้ชื่อของเขา ทหารที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของเขาก็รู้สึกประหลาดใจ อาทิ คำสั่งลงนามกองแลให้ทหารของตนถอนตัวออกจากที่มั่นสำคัญๆ ในทุ่งไหหิน จากนั้นก็มีทหารสวมเครื่องแบบฝ่ายเป็นกลางแต่ความจริงเป็นทหารของ นายพลภูมี หน่อสวัน เข้ามาแทนที่
นายพันเอกเดือน ซึ่งเป็นรองผู้บังคับบัญชาถัดจากกองแลและดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการบริเวณทุ่งไหหิน-เชียงขวางรู้ดีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น จึงไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ส่วนเจ้าสุวรรณภูมาไม่เคยสนใจใยดีในคำเตือนที่ว่ากองทหารฝ่ายเป็นกลางจะถูกทหารฝ่ายขวาของภูมีครอบไว้หมด กลับหาว่าเจ้าน้องสุภานุวงศ์ระแวงมากเกินไป นี่เป็นเหตุการณ์เมื่อตอนสิ้นเดือนมีนาคม ๒๕๐๖ มิหนำซ้ำยังมีข่าวสะบัดไปว่าจะเกิดรัฐประหาร ผู้นำฝ่ายปเทดลาวและฝ่ายเป็นกลางจะถูกสังหารหมด สายลับของซีไอเอเกลื่อนไปทั้งเวียงจันทน์ งานสำคัญก็คือ ติดต่อซื้อคนที่จะเป็นประโยชน์หรือทำลายล้างผู้ที่อาจจะเป็นภัยต่อฝ่ายขวา
คืนวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๐๖ ท้าวกีนิน พลเสนาได้ถูกลอบสังหารเสียชีวิตด้วยปืนกลขณะเดินขึ้นบันไดบ้านกับภรรยาซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสซึ่งทั้งสองเพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยงรับรองในพระราชวัง ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงตามถนนสายต่างๆ ในเวียงจันทน์ก็มีแต่ทหารและรถถัง ปรากฏว่า กำลังของฝ่ายนายพลภูมี ล้อมตัวเมืองเวียงจันทน์ไว้อย่างหนาแน่น กองทหารของกองแลหน่วยหนึ่งซึ่งมีทหารของนายพลภูมีปะปนอยู่ด้วย ได้รีบรุดจะไปจับพันเอกเดือนอันเป็นก้าวแรกที่จะเข้ายึดครองทุ่งไหหินต่อไป
ทหารยามของพันเอกเดือนได้ตีโต้จนฝ่ายรุกต้องถอยกลับไป วันรุ่งขึ้น นายพลภูมีไม่ยอมละความพยายามใช้รถถังถึง ๗ คันเข้าสนับสนุนการบุกกองบัญชาการของพันเอกเดือนแต่ก็คงไม่ได้ผลอีกเช่นเคย ทหารที่บุกเข้าไปถ้าไม่ไปเข้ากับฝ่ายพันเอกเดือนก็ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งเสียดื้อๆ ทั้งนี้เพราะพันเอกเดือนเป็นนายทหารที่มีความสามารถและเป็นที่นิยมรักใคร่คนหนึ่งในบรรดานายทหารฝ่ายเป็นกลาง ทหารของกองแลไม่กล้าที่จะรบด้วยเลย
ท่านกีนิน พลเสนาหัวหน้าพรรคสันติภาพ-เป็นกลาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมาจากฝ่ายเป็นกลางคือฝ่ายเจ้าสุวรรณภูมา แต่ก็ไม่เห็นด้วยในการกระทำของเจ้สุวรรณภูมาต่อฝ่ายแนวลาวรักชาติหรือฝ่ายปเทดลาว เป็นที่รู้กันดีว่าท่านกีนิน เป็นคนซื่อสัตย์สุจริต และเชิดชูนโยบายสันติภาพเป็นกลางจึงมีความผูกพันอย่างแน่นแฟ้นกับฝ่ายปเทดลาว ท่านจึงเป็นเป้าหมายสำคัญเป้าหมายหนึ่งของซีไอเอ ที่จะต้องซื้อตัว เช่นเดียวกับเจ้าสุวรรณภูมา กองแลและคนใหญ่ๆโตๆ ในลาวขณะนั้นอีกจำนวนมาก ที่ยังชีพเสพย์สุขอยู่ด้วยเงินของซีไอเอ
กองแลนั้นหลังจากได้รับคำสรรเสริญเยินยอและอามิส อุดมการณ์ก็เปลี่ยนไป กองบัญชาการของเขาได้ถูกทหารของภูมีแทรกซึมเข้าไป คำสั่งแปลกๆได้ออกไปโดยใช้ชื่อของเขา ทหารที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของเขาก็รู้สึกประหลาดใจ อาทิ คำสั่งลงนามกองแลให้ทหารของตนถอนตัวออกจากที่มั่นสำคัญๆ ในทุ่งไหหิน จากนั้นก็มีทหารสวมเครื่องแบบฝ่ายเป็นกลางแต่ความจริงเป็นทหารของ นายพลภูมี หน่อสวัน เข้ามาแทนที่
นายพันเอกเดือน ซึ่งเป็นรองผู้บังคับบัญชาถัดจากกองแลและดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการบริเวณทุ่งไหหิน-เชียงขวางรู้ดีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น จึงไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ส่วนเจ้าสุวรรณภูมาไม่เคยสนใจใยดีในคำเตือนที่ว่ากองทหารฝ่ายเป็นกลางจะถูกทหารฝ่ายขวาของภูมีครอบไว้หมด กลับหาว่าเจ้าน้องสุภานุวงศ์ระแวงมากเกินไป นี่เป็นเหตุการณ์เมื่อตอนสิ้นเดือนมีนาคม ๒๕๐๖ มิหนำซ้ำยังมีข่าวสะบัดไปว่าจะเกิดรัฐประหาร ผู้นำฝ่ายปเทดลาวและฝ่ายเป็นกลางจะถูกสังหารหมด สายลับของซีไอเอเกลื่อนไปทั้งเวียงจันทน์ งานสำคัญก็คือ ติดต่อซื้อคนที่จะเป็นประโยชน์หรือทำลายล้างผู้ที่อาจจะเป็นภัยต่อฝ่ายขวา
คืนวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๐๖ ท้าวกีนิน พลเสนาได้ถูกลอบสังหารเสียชีวิตด้วยปืนกลขณะเดินขึ้นบันไดบ้านกับภรรยาซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสซึ่งทั้งสองเพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยงรับรองในพระราชวัง ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงตามถนนสายต่างๆ ในเวียงจันทน์ก็มีแต่ทหารและรถถัง ปรากฏว่า กำลังของฝ่ายนายพลภูมี ล้อมตัวเมืองเวียงจันทน์ไว้อย่างหนาแน่น กองทหารของกองแลหน่วยหนึ่งซึ่งมีทหารของนายพลภูมีปะปนอยู่ด้วย ได้รีบรุดจะไปจับพันเอกเดือนอันเป็นก้าวแรกที่จะเข้ายึดครองทุ่งไหหินต่อไป
ทหารยามของพันเอกเดือนได้ตีโต้จนฝ่ายรุกต้องถอยกลับไป วันรุ่งขึ้น นายพลภูมีไม่ยอมละความพยายามใช้รถถังถึง ๗ คันเข้าสนับสนุนการบุกกองบัญชาการของพันเอกเดือนแต่ก็คงไม่ได้ผลอีกเช่นเคย ทหารที่บุกเข้าไปถ้าไม่ไปเข้ากับฝ่ายพันเอกเดือนก็ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งเสียดื้อๆ ทั้งนี้เพราะพันเอกเดือนเป็นนายทหารที่มีความสามารถและเป็นที่นิยมรักใคร่คนหนึ่งในบรรดานายทหารฝ่ายเป็นกลาง ทหารของกองแลไม่กล้าที่จะรบด้วยเลย
No comments:
Post a Comment