Friday, April 17, 2009

ลำดับ๕๕๔.ความพ่ายแพ้ของวังเปา(๔)

บทที่ ๔

หลังความพ่ายแพ้ของทหารกองโจรของวังเปาภายใต้การอบรมโดยพวกซีไอเอ และพารูไทย วังเปารู้สึกเสียหน้าอย่างมากต่อหน้าลูกน้องและไม่พอใจที่อเมริกันไปเจรจาสงบศึกกับพวกฝ่ายซ้ายที่เป็นข้าศึก บิล แลร์ได้บอกแก่วังเปาว่า ไม่ว่ากระทรวงต่างประเทศจะเจรจาอะไรกับฝ่ายกลางหรือฝ่าย ปเทดลาวแต่ซีไอเอยังคงสนับสนุนฝ่ายขวานิยมกษัตริย์อย่างเต็มที่ แลร์โน้มน้าวให้วังเปาทำใจว่าวันหนึ่งข้างหน้าอเมริกันอาจจะต้องจากไป เขาอยากให้พวกม้งยืนหยัดอยู่ได้ด้วยลำแข้งของตนเอง

ที่เวียงจันทน์ บิล แลร์ยังคงอยู่หลังฉาก คือเป็นเจ้าหน้าที่โครงการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวม้งของสถานทูตอเมริกัน โดยที่การฝึกทหารและส่งอาวุธมีอันต้องหยุดลงชั่วคราว แต่จะเปลี่ยนเป็นส่งอาหารและยาเพื่อให้กองกำลังของพวกม้งของวังเปาที่ซวนเซไม่ให้ล่มสลายไป

แลร์ได้ส่งเจ้าหน้าที่ภาคสนามคนหนึ่งชื่อ บิล ยังก์ บินหาทำเลที่จะตั้งฐานที่มั่นแห่งใหม่ของพวกม้ง สถานที่ยังก์หาได้คือที่ล่องแจ้งซึ่งเป็นหุบรูปชามอ่างขนาดยักษ์อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของทุ่งไหหิน

ยังก์ได้แจ้งแก่แลร์ว่า ล่องแจ้งเป็นทำเลที่เหมาะเพราะอยู่ห่างไกล มีพื้นที่ปลูกข้าวโพด มีหมู่บ้านขนาดเล็กของชนเผ่า ลาวเทิง ปลูกกระท่อมกระจายไม่กี่หลัง แลร์เห็นดีด้วยและให้ยังก์ไปสำรวจทำเลอื่นด้วยเผื่อไว้ในกรณีต้องการขยายฐานที่มั่นในอนาคต

เส้นทางสำรวจของยังก์เริ่มจากทุ่งไหหินแล้วมุ่งหน้าสู่แม่น้ำโขงและข้ามไปยังแขวงไชยบุรีของลาว เขาได้สร้างสนามบินขนาดเล็กขึ้นที่นั่น จากนั้นแลร์ส่งเขาไปทางเหนือของไชยบุรีกระทั่งไปสุดแผ่นดินของลาวตรงสามเหลี่ยมทองคำ ที่นั่นยังก์ได้จัดตั้งกองกำลังของพวกชนเผ่าฉานขึ้นมา

ทางด้านการเจรจาตั้งรัฐบาลผสม ๓ ฝ่ายแม้ว่าจะได้เริ่มเจรจาในเดือนตุลาคม ๒๕๐๔ แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าเพราะไม่สามารถตกลงกันเรื่องกระทรวงที่แต่ละฝ่ายจะได้ จนล่วงเข้าสู่เดือนมีนาคม ๒๕๐๕ จึงเกิดกรณีทหารฝ่ายปเทดลาวปิดล้อมกองทหารของภูมี หน่อสวันที่ลุกล้ำเส้นหยุดยิงเข้ามาไกลถึง ๗๐ไมล์ ทหารของภูมีจำนวน ๗,๐๐๐ คนจึงติดแหง็กอยู่ในหุบเขาใกล้เมืองน้ำทานานถึง ๔ เดือนโดยไม่ได้รับการสนับสนุนทางอากาศ ในที่สุดก็แตกกระเจิงทิ้งอาวุธยุทโธปกรณ์ไว้เบื้องหลังจำนวนมาก

ความพ่ายแพ้ของภูมี หน่อสวันในครั้งนี้ ภูมีบอกให้โลกรู้ว่าเพราะฝ่ายปเทดลาวมีกองทหารเวียดมินห์เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งเป็นการโกหกของภูมี ซึ่งฮิวโทยี นักข่าวอเมริกันได้เขียนหนังสือบอกให้โลกรู้ความจริงในอีกทางหนึ่งตรงกันข้ามกับภูมีว่า

“ข้อกล่าวหาที่ว่า ทหารปเลดลาวได้รับความช่วยเหลือจากทหารจีนนั้น พวกที่ปรึกษาอเมริกันในบริเวณนั้นเองก็ปฏิเสธ ตามที่เชื่อกันว่ามีทหารเวียดมินห์อย่างน้อยหนึ่งกองพันอยู่ในเมืองสายก็เช่นกัน ผู้สังเกตการณ์หลายต่อหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า ทหารปเทดลาวไม่จำเป็นต้องอาศัยเวียดมินห์เลยแม้แต่คำแนะนำ ก็สามารถจะจัดการกับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย ฝ่ายลาดตระเวณอเมริกันเองที่ติดตามเส้นทางมายังน้ำทา พบแต่หน่วยกองโจรปเทดลาวที่กระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ มี่เวียดมินห์เลยสักคน ทหารต่างชาติที่มีอยู่แน่ๆ ก็ได้แก่ที่ปรึกษาทางทหารอเมริกันประมาณ ๒ พันคน ซึ่งเป็นผู้วางแผนการรบให้ภูมีและควบคุมการปฏิบัติการทางหทารบริเวณต่างๆ รวมทั้งน้ำทาซึ่งมีกองทหารไทย และก๊กมินตั๋งร่วมปฏิบัติการอยู่ด้วย ภายใต้การบัญชาการของ ซีไอเอ กับภูมีหน่อสวัน”

จากการปราชัยครั้งแล้วครั้งเล่าและจากการปราชัยอย่างใหญ่หลวงของภูมีครั้งนี้ จึงบังคับให้ฝ่ายภูมีต้องนั่งโต๊ะเจรจาจัดตั้งรัฐบาล ๓ ฝ่ายต่อไป.

No comments: