บทที่๑๘ ติดอาวุธให้เจ้าหน้าที่
เซ็กคอร์ดคิดว่าสิ่งนี้ไม่เป็นการร้องขอที่มากเกินไป แต่ซุลลิแวนไม่เห็นด้วยที่จะให้ทหารราบอเมริกันเข้ามาตั้งฐานบนยอดภูผาที เซ็กคอร์ดไม่ยอมจำนนง่ายๆจึงนำแฟ้มประวัติข้อมูลของเจ้าหน้าที่อเมริกันบนฐานที่มั่นมาศึกษา เขาพบว่ามีเจ้าหน้าที่ซีไอเอ ๔ คนในฐานที่มั่นที่นัคฮัง บางวันพวกเขาจึงจะขึ้นไปพักบนภูผาที สองคนในนั้นเป็นนักกระโดดร่มผจญเพลิงของหน่วยดับไฟป่าและซีไอเอรับมาปฏิบัติงานในลาว ทั้งสองคนยังหนุ่มแน่นมีกำลังดี แต่ไม่เคยผ่านการฝึกหลักสูตรทางทหารใดๆมาก่อน
แช็คลี่ศึกษาประวัติเจ้าหน้าที่บนภูผาทีที่ดูแลคอมมานโดคลับ ซึ่งมีทั้งนักบินที่ประสบการโชกโชนไปจนถึงช่างเทคนิค แต่ไม่มีใครเลยที่มีประสบการณ์การรบอย่างทหารราบ เซ็กคอร์ดตัดสินใจจะติดอาวุธให้พนักงานเหล่านี้ เขาได้ส่งโครงการผ่านทางซีไอเอไปยังท่านทูตซุลลิแวน แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจ เขาจึงเดินทางไปเวียงจันทน์เพื่อผลักดันเรื่องนี้ด้วยตนเองให้ถึงที่สุด
แต่ท่านทูตซุลลิแวนที่ไม่ชอบพวกซีไอเอโดยเฉพาะแซ็คลี่ จึงปฏิเสธเซ็กคอร์ดไปเป็นหนที่สอง
เซ็กคอร์ดไม่คิดว่าการปฏิเสธนั้นจะมาจากเรื่องส่วนตัว แต่เขาก็รำคาญใจที่พบว่ารัฐบาลของเขาได้นำอุปกรณ์ไปติดตั้งไว้บนภูเขาลูกนั้นโดยไม่พยายามปกป้องเจ้าหน้าที่ที่นั่น มันเหมือนกับกล่องเล็กๆหลายกล่องที่วางแยกกันอยู่ และผู้บังคับบัญชาของแต่ละกล่องก็มัวแต่วุ่นวายกีดกันคนนอกไม่ให้เข้ามายุ่งในเขตอำนาจเล็กๆของตน
เซ็กคอร์ดเล่าว่า “ผมตัดสินใจเดินทางไปพบผู้บัญชาการฝูงบินที่ ๑๓ กองบินที่ ๗ ในอุดรฯ ผมบอกเขาว่าผมได้ตัดสินใจกลับคืนสู่สภาพทหารอีกครั้ง ซึ่งตอนนั้นผมอยู่ในสถานะพิเศษคือได้รับมอบหมายจากซีไอเอให้รับผิดชอบการป้องกันและอพยพฉุกเฉินของพิกัดลิม่า-๘๕(ภูผาที)โดยที่เป็นทหารประจำการของกองทัพอากาศและเป็นเจ้าหน้าที่ซีไอเอด้วยในเวลาเดียวกัน กฏสำคัญที่สุดของการเป็นนายทหารคือการรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของลูกน้อง ผมจึงได้ข้อสรุปว่า สิ่งที่พอทำได้ตอนนี้ คือรีบติดอาวุธคนเหล่านั้น แม้จะเป็นการละเมิดคำสั่งของซุลลิแวนก็ตาม สิ่งที่ผมต้องการคือปืนเอ็ม-๑๖ จำนวนหนึ่ง”
เซ็กคอร์ดเซ็นใบรับปืนเอ็ม-๑๖ ด้วยตนเอง ในตอนนั้นปืนแบบเอ็ม-๑๖เป็นอาวุธประจำกายแบบค่อนข้างใหม่ของกองทัพ มันเป็นอุปกรณ์ที่ซีไอเอไม่ได้นำไปใช้ในเขตภูเขาของลาว แช็คลี่เตรียมการฝึกซ้อมพื้นฐานการใช้อาวุธประจำกายแบบนี้ให้กับเจ้าหน้าที่บนภูผาที และยังได้จัดหากระสุนและลูกระเบิดสำรองไว้เป็นจำนวนมาก
เซ็กคอร์ดคิดว่าสิ่งนี้ไม่เป็นการร้องขอที่มากเกินไป แต่ซุลลิแวนไม่เห็นด้วยที่จะให้ทหารราบอเมริกันเข้ามาตั้งฐานบนยอดภูผาที เซ็กคอร์ดไม่ยอมจำนนง่ายๆจึงนำแฟ้มประวัติข้อมูลของเจ้าหน้าที่อเมริกันบนฐานที่มั่นมาศึกษา เขาพบว่ามีเจ้าหน้าที่ซีไอเอ ๔ คนในฐานที่มั่นที่นัคฮัง บางวันพวกเขาจึงจะขึ้นไปพักบนภูผาที สองคนในนั้นเป็นนักกระโดดร่มผจญเพลิงของหน่วยดับไฟป่าและซีไอเอรับมาปฏิบัติงานในลาว ทั้งสองคนยังหนุ่มแน่นมีกำลังดี แต่ไม่เคยผ่านการฝึกหลักสูตรทางทหารใดๆมาก่อน
แช็คลี่ศึกษาประวัติเจ้าหน้าที่บนภูผาทีที่ดูแลคอมมานโดคลับ ซึ่งมีทั้งนักบินที่ประสบการโชกโชนไปจนถึงช่างเทคนิค แต่ไม่มีใครเลยที่มีประสบการณ์การรบอย่างทหารราบ เซ็กคอร์ดตัดสินใจจะติดอาวุธให้พนักงานเหล่านี้ เขาได้ส่งโครงการผ่านทางซีไอเอไปยังท่านทูตซุลลิแวน แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจ เขาจึงเดินทางไปเวียงจันทน์เพื่อผลักดันเรื่องนี้ด้วยตนเองให้ถึงที่สุด
แต่ท่านทูตซุลลิแวนที่ไม่ชอบพวกซีไอเอโดยเฉพาะแซ็คลี่ จึงปฏิเสธเซ็กคอร์ดไปเป็นหนที่สอง
เซ็กคอร์ดไม่คิดว่าการปฏิเสธนั้นจะมาจากเรื่องส่วนตัว แต่เขาก็รำคาญใจที่พบว่ารัฐบาลของเขาได้นำอุปกรณ์ไปติดตั้งไว้บนภูเขาลูกนั้นโดยไม่พยายามปกป้องเจ้าหน้าที่ที่นั่น มันเหมือนกับกล่องเล็กๆหลายกล่องที่วางแยกกันอยู่ และผู้บังคับบัญชาของแต่ละกล่องก็มัวแต่วุ่นวายกีดกันคนนอกไม่ให้เข้ามายุ่งในเขตอำนาจเล็กๆของตน
เซ็กคอร์ดเล่าว่า “ผมตัดสินใจเดินทางไปพบผู้บัญชาการฝูงบินที่ ๑๓ กองบินที่ ๗ ในอุดรฯ ผมบอกเขาว่าผมได้ตัดสินใจกลับคืนสู่สภาพทหารอีกครั้ง ซึ่งตอนนั้นผมอยู่ในสถานะพิเศษคือได้รับมอบหมายจากซีไอเอให้รับผิดชอบการป้องกันและอพยพฉุกเฉินของพิกัดลิม่า-๘๕(ภูผาที)โดยที่เป็นทหารประจำการของกองทัพอากาศและเป็นเจ้าหน้าที่ซีไอเอด้วยในเวลาเดียวกัน กฏสำคัญที่สุดของการเป็นนายทหารคือการรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของลูกน้อง ผมจึงได้ข้อสรุปว่า สิ่งที่พอทำได้ตอนนี้ คือรีบติดอาวุธคนเหล่านั้น แม้จะเป็นการละเมิดคำสั่งของซุลลิแวนก็ตาม สิ่งที่ผมต้องการคือปืนเอ็ม-๑๖ จำนวนหนึ่ง”
เซ็กคอร์ดเซ็นใบรับปืนเอ็ม-๑๖ ด้วยตนเอง ในตอนนั้นปืนแบบเอ็ม-๑๖เป็นอาวุธประจำกายแบบค่อนข้างใหม่ของกองทัพ มันเป็นอุปกรณ์ที่ซีไอเอไม่ได้นำไปใช้ในเขตภูเขาของลาว แช็คลี่เตรียมการฝึกซ้อมพื้นฐานการใช้อาวุธประจำกายแบบนี้ให้กับเจ้าหน้าที่บนภูผาที และยังได้จัดหากระสุนและลูกระเบิดสำรองไว้เป็นจำนวนมาก
No comments:
Post a Comment