บทที่ ๑
จากความล้มเหลวในกรณียุดทุ่งไหหิน ทั้งๆที่สถานการณ์ระยะแรกเป็นประโยชน์อยู่มากทั้งจากการหักหลังและจู่โจมก่อนโดยไม่ให้ฝ่ายปรปักษ์รู้ตัวล่งหน้า ภูมี หน่อสวัน ก็ได้พิสูจน์ตนเองให้ “เจ้านาย” ทางวอชิงตันเห็นแล้วว่า ไม่มีความสามารถอย่างแท้จริงก็เลยไม่เป็นที่โปรดปรานเพราะไม่เป็นประโยชน์อีกต่อไป ทางวอชิงตันจึงดำเนินการเปลี่ยนแปลงนโยบายใหม่ตั้งตัวบุคคลทางการเมืองและการจัดตั้งกำลังทางทหารในลาว ในทางการเมืองนั้นจะไม่สนับสนุนสมุนของตนอย่างภูมี หน่อสวันจนออกนอกหน้า เพราะบุคคลเหล่านี้ประชาชนลาวเกลียดชังอย่างเข้ากระดูกดำ แต่จะหันมายึดเจ้าสุวรรณภูมาเป็นหลัก
ส่วนในทางทหารผู้เชี่ยวชาญทางทหารของวอชิงตันเห็นว่า กองทัพบกลาวซึ่งทหารส่วนใหญ่ประกอบด้วยลาวลุ่ม นับถือศาสนาพุทธ ไม่มีสมรรถภาพในการสู้รบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเห็นได้ชัดว่าไม่เต็มใจที่จะเข่นฆ่าพี่น้องชาวลาวด้วยกันเองอย่างที่ทางวอชิงตันบงการ ผู้ชี่ยนวชาญจึงสรุปลงว่า แม้จะทุ่มดอลล่าร์ลงไปเป็นจำนวนมหึมาเพียงใดก็ตาม กองทัพบอกลาวก็ไม่มีทางที่จะมีสมรรถภาพในการสู้รบอย่างที่จะสมประโยชน์ของอเมริกันได้ จำเป็นจะต้องหาทางสร้างกำลังรบขึ้นใหม่
ช์เลสซิงเจอร์เล่าว่า ประธานาธิบดีเคนเนดี้ได้ตกลงใจที่จะขชยายกำลังพิเศษซึ่งได้แก่กำลังรบที่อเมริกันส่งเข้ามาในอินโดจีนเพื่อกระทำ “สงครามพิเศษ” ออกไปเป็นกองทัพกำลังรบดังกล่าวนี้จะต้องสร้างขึ้นเพื่อใช้ต่อสู้กับสงครามกองโจรในประเทศล้าหลังอย่างได้ผล แม้ว่ากองทัพบกอเมริกันเองจะคัดค้าน แต่เคนเนดี้ก็ได้ตัดสินใจที่จะเสริมสร้างประสิทธิภาพของกองกำลังพิเศษโดยการฝึกอบรมตามแบบฉบับของทหารรับจ้างที่เรียกว่า “กรีนแบเรต์” ซึ่งมีความสามารถพิเศษในการเข่นฆ่าและทรมานผู้ที่ถูกสงสัยว่าจะเป็นคอมมิวนิสต์ ยิ่งกว่านี้ ในการสู้รบจะต้องใช้วิธีการทุกชนิด นอกตำรับทหารประจำการทั่วไป และลาวก็จะเป็นประเทศแรกที่ได้รับ “เกียรติ” ให้เป็นที่ทดลองความสามารถในการฆ่าคนของทหาร “กรีนแบเรต์”นี้
ด้วยการระดมกำลังชาวพื้นเมืองขึ้นมา มีนายทหารอเมริกันเป็นผู้ฝึกอบรม และซีไอเอเป็นผู้จ่ายเงิน แผนก็จะลุล่วงไปด้วยดี แต่จะหาชาวลาวที่ไหนที่จะมีสมรรถภาพในการสู้รบได้สมประโยชน์อเริกันยิ่งกว่าทหารรัฐบาลที่แล้วๆมา อเมริกันหาคำตอบได้จากชนเผ่าม้ง (โปรดอ่านบทความลำดับที่๕๔๔ ถึง ๕๔๖ ชื่อบทความ ปฏิบัติการโมเมนตัม)
อนึ่ง พวกม้งนั้นส่วนใหญ่สนับสนุนฝ่ายปเทดลาวมาตั้งแต่เริ่มแรกที่เจ้าสุภานุวงศ์ก่อตั้งแนวร่วมเพื่อกู้เอกราชของลาวขึ้น หัวหน้าชนเผ่าม้งที่สำคัญยิ่งคือ เฟย์ดัง ก็เป็นสมาชิกคณะกรรมการกลางของแนวลาวรักชาติ
ส่วนในทางทหารผู้เชี่ยวชาญทางทหารของวอชิงตันเห็นว่า กองทัพบกลาวซึ่งทหารส่วนใหญ่ประกอบด้วยลาวลุ่ม นับถือศาสนาพุทธ ไม่มีสมรรถภาพในการสู้รบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเห็นได้ชัดว่าไม่เต็มใจที่จะเข่นฆ่าพี่น้องชาวลาวด้วยกันเองอย่างที่ทางวอชิงตันบงการ ผู้ชี่ยนวชาญจึงสรุปลงว่า แม้จะทุ่มดอลล่าร์ลงไปเป็นจำนวนมหึมาเพียงใดก็ตาม กองทัพบอกลาวก็ไม่มีทางที่จะมีสมรรถภาพในการสู้รบอย่างที่จะสมประโยชน์ของอเมริกันได้ จำเป็นจะต้องหาทางสร้างกำลังรบขึ้นใหม่
ช์เลสซิงเจอร์เล่าว่า ประธานาธิบดีเคนเนดี้ได้ตกลงใจที่จะขชยายกำลังพิเศษซึ่งได้แก่กำลังรบที่อเมริกันส่งเข้ามาในอินโดจีนเพื่อกระทำ “สงครามพิเศษ” ออกไปเป็นกองทัพกำลังรบดังกล่าวนี้จะต้องสร้างขึ้นเพื่อใช้ต่อสู้กับสงครามกองโจรในประเทศล้าหลังอย่างได้ผล แม้ว่ากองทัพบกอเมริกันเองจะคัดค้าน แต่เคนเนดี้ก็ได้ตัดสินใจที่จะเสริมสร้างประสิทธิภาพของกองกำลังพิเศษโดยการฝึกอบรมตามแบบฉบับของทหารรับจ้างที่เรียกว่า “กรีนแบเรต์” ซึ่งมีความสามารถพิเศษในการเข่นฆ่าและทรมานผู้ที่ถูกสงสัยว่าจะเป็นคอมมิวนิสต์ ยิ่งกว่านี้ ในการสู้รบจะต้องใช้วิธีการทุกชนิด นอกตำรับทหารประจำการทั่วไป และลาวก็จะเป็นประเทศแรกที่ได้รับ “เกียรติ” ให้เป็นที่ทดลองความสามารถในการฆ่าคนของทหาร “กรีนแบเรต์”นี้
ด้วยการระดมกำลังชาวพื้นเมืองขึ้นมา มีนายทหารอเมริกันเป็นผู้ฝึกอบรม และซีไอเอเป็นผู้จ่ายเงิน แผนก็จะลุล่วงไปด้วยดี แต่จะหาชาวลาวที่ไหนที่จะมีสมรรถภาพในการสู้รบได้สมประโยชน์อเริกันยิ่งกว่าทหารรัฐบาลที่แล้วๆมา อเมริกันหาคำตอบได้จากชนเผ่าม้ง (โปรดอ่านบทความลำดับที่๕๔๔ ถึง ๕๔๖ ชื่อบทความ ปฏิบัติการโมเมนตัม)
อนึ่ง พวกม้งนั้นส่วนใหญ่สนับสนุนฝ่ายปเทดลาวมาตั้งแต่เริ่มแรกที่เจ้าสุภานุวงศ์ก่อตั้งแนวร่วมเพื่อกู้เอกราชของลาวขึ้น หัวหน้าชนเผ่าม้งที่สำคัญยิ่งคือ เฟย์ดัง ก็เป็นสมาชิกคณะกรรมการกลางของแนวลาวรักชาติ
No comments:
Post a Comment