บทที่๑๕ ความพ่ายแพ้ย่อยยับที่น้ำแบ่ง
ทหารเวียดนามเหนือได้เข้าล้อมและตรึงกองทัพฝ่ายนิยมกษัตริย์ไว้ภายในหุบเขา ข้าศึกเข้ายึดพื้นที่สูงบนเนินเขาที่อยู่รายรอบหุบเขา จากนั้นขุดอุโมงค์ลอดใต้แนวตั้งรับของฝ่ายนิยมกษัตริย์เข้ามา และก็เป็นอย่างที่แลร์ได้คาดการณ์ไว้ แนวตั้งรับของทหารฝ่ายนิยมกษัตริย์ใช้กระสุนไปจนหมดเกลี้ยงแม้ว่าเครื่องบินแอร์อเมริกาจะทิ้งร่มส่งกระสุนลงมาเพิ่มเติมเป็นระยะๆก็ตาม
สถานการณ์กลับยิ่งเลวร้ายลงอีก เมื่อนายทหารลาวบนพื้นดินเกิดสับสนในพิกัดที่ตั้งของตน และวิทยุบอกพิกัดผิดพลาด นำนักบินเข้าทิ้งระเบิดลงบนบริเวณที่ทั่นพวกตนพอดี!
ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักจากแช็คลี่ วังเปาได้ส่งทหารชาวเขาจำนวนหนึ่งไปทางทิศตะวันออกของน้ำแบ่งโดยหวังโจมตีรบกวนกองทหารเวียดนามเหนือที่อยู่บริเวณนั้น แต่ก็ไม่ได้ผลอะไรนัก วันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๑๑ ที่มั่นในน้ำแบ่งก็แตกลง เครื่องชอปเปอร์ของแอร์อเมริกาเข้าช่วยเหลือทหารฝ่ายนิยมกษัตริย์ที่หนีตายกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ มีทหารลาวลุ่มจำนวน ๒,๐๐๐ คนสูญหายและต่อมาภายหลังปรากฏว่าทหารเหล่านี้บางคนปรากฏตัวอีกครั้งในเครื่องแบบกองทัพฝ่ายปเทดลาว
เหตุการณ์พลิกผันที่น้ำแบ่งครั้งนี้ได้สั่นสะเทือนขวัญกำลังใจทหารในกองทัพลาวลุ่มอย่างหนัก ในเวียงจันทน์สถานทูตอเมริกาพยายามปัดสวะให้พ้นตัว โดยซุลลิแวนออกแถลงการณ์ว่าการไปตั้งมั่นที่น้ำแบ่งเป็นความคิดของกองทัพลาวแต่เริ่มต้น ไม่ใช่ความคิดของซีไอเอในพื้นที่
ต่อมาซุลลิแวนเล่าว่า “ปฏิบัติการน้ำที่แบ่งดำเนินไป โดยที่ต่างก็รู้ว่ามันจะกลายเป็นความย่อยยับในภายหลัง แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ” เรื่องนี้ทำให้เกิดคำถามที่ว่า หากซุลลิแวนรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดความหายนะขึ้นแล้ว เหตุใดเขาจึงไม่พยายามหยุดยั้งมันเล่า รัฐบาลลาวไม่สามารถดำเนินปฏิบัติการใหญ่ขนาดนี้ได้ หากซุลลิแวนไม่ได้อนุมัติให้พวกอเมริกันเข้าสนับสนุนด้านการลำเลียงกองทหารและส่งกำลังบำรุง
ขณะที่การชี้นิ้วโทษกันเองยังคงดำเนินต่อไป เท็ด แช็คลี่ ผู้อำนวยการซีไอเอในลาวก็ได้เข้าร่วมวงด้วยโดยชี้ว่าผู้ประสานงานของกองทัพในสถานทูตนั้นแหละที่ควรถูกตำหนิในสิ่งที่เกิดขึ้น แม้คำกล่าวหาของแช็คลี่จะมีความจริงอยู่บ้าง แต่ที่ศูนย์บัญชาการ ๔๘๐๒ในอุดรฯนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่นั่นต่างเชื่อว่าผู้ที่รับผิดชอบในความหายนะครั้งนี้มากกว่าใครก็คือแช็คลี่เอง บิล แลร์กับแลนดรี้ก็คิดเช่นนั้น แต่ผู้ที่คิดเสียงดังกว่าก็คือเซ็กคอร์ด
เซ็กคอร์ดให้ความเห็นเรื่องน้ำแบ่งว่า “มันเป็นความสูญเสียที่ไม่จำเป็นเลยจริงๆเพราะทุกคนต่างรู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะต้องเกิดขึ้น” เซ็กคอร์ดกล่าวตรงไปตรงมาอีกว่า “เท็ด แช็คลี่นั้นไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับยุทธวิธีการทำสงคราม”
ทหารเวียดนามเหนือได้เข้าล้อมและตรึงกองทัพฝ่ายนิยมกษัตริย์ไว้ภายในหุบเขา ข้าศึกเข้ายึดพื้นที่สูงบนเนินเขาที่อยู่รายรอบหุบเขา จากนั้นขุดอุโมงค์ลอดใต้แนวตั้งรับของฝ่ายนิยมกษัตริย์เข้ามา และก็เป็นอย่างที่แลร์ได้คาดการณ์ไว้ แนวตั้งรับของทหารฝ่ายนิยมกษัตริย์ใช้กระสุนไปจนหมดเกลี้ยงแม้ว่าเครื่องบินแอร์อเมริกาจะทิ้งร่มส่งกระสุนลงมาเพิ่มเติมเป็นระยะๆก็ตาม
สถานการณ์กลับยิ่งเลวร้ายลงอีก เมื่อนายทหารลาวบนพื้นดินเกิดสับสนในพิกัดที่ตั้งของตน และวิทยุบอกพิกัดผิดพลาด นำนักบินเข้าทิ้งระเบิดลงบนบริเวณที่ทั่นพวกตนพอดี!
ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักจากแช็คลี่ วังเปาได้ส่งทหารชาวเขาจำนวนหนึ่งไปทางทิศตะวันออกของน้ำแบ่งโดยหวังโจมตีรบกวนกองทหารเวียดนามเหนือที่อยู่บริเวณนั้น แต่ก็ไม่ได้ผลอะไรนัก วันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๑๑ ที่มั่นในน้ำแบ่งก็แตกลง เครื่องชอปเปอร์ของแอร์อเมริกาเข้าช่วยเหลือทหารฝ่ายนิยมกษัตริย์ที่หนีตายกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ มีทหารลาวลุ่มจำนวน ๒,๐๐๐ คนสูญหายและต่อมาภายหลังปรากฏว่าทหารเหล่านี้บางคนปรากฏตัวอีกครั้งในเครื่องแบบกองทัพฝ่ายปเทดลาว
เหตุการณ์พลิกผันที่น้ำแบ่งครั้งนี้ได้สั่นสะเทือนขวัญกำลังใจทหารในกองทัพลาวลุ่มอย่างหนัก ในเวียงจันทน์สถานทูตอเมริกาพยายามปัดสวะให้พ้นตัว โดยซุลลิแวนออกแถลงการณ์ว่าการไปตั้งมั่นที่น้ำแบ่งเป็นความคิดของกองทัพลาวแต่เริ่มต้น ไม่ใช่ความคิดของซีไอเอในพื้นที่
ต่อมาซุลลิแวนเล่าว่า “ปฏิบัติการน้ำที่แบ่งดำเนินไป โดยที่ต่างก็รู้ว่ามันจะกลายเป็นความย่อยยับในภายหลัง แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ” เรื่องนี้ทำให้เกิดคำถามที่ว่า หากซุลลิแวนรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดความหายนะขึ้นแล้ว เหตุใดเขาจึงไม่พยายามหยุดยั้งมันเล่า รัฐบาลลาวไม่สามารถดำเนินปฏิบัติการใหญ่ขนาดนี้ได้ หากซุลลิแวนไม่ได้อนุมัติให้พวกอเมริกันเข้าสนับสนุนด้านการลำเลียงกองทหารและส่งกำลังบำรุง
ขณะที่การชี้นิ้วโทษกันเองยังคงดำเนินต่อไป เท็ด แช็คลี่ ผู้อำนวยการซีไอเอในลาวก็ได้เข้าร่วมวงด้วยโดยชี้ว่าผู้ประสานงานของกองทัพในสถานทูตนั้นแหละที่ควรถูกตำหนิในสิ่งที่เกิดขึ้น แม้คำกล่าวหาของแช็คลี่จะมีความจริงอยู่บ้าง แต่ที่ศูนย์บัญชาการ ๔๘๐๒ในอุดรฯนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่นั่นต่างเชื่อว่าผู้ที่รับผิดชอบในความหายนะครั้งนี้มากกว่าใครก็คือแช็คลี่เอง บิล แลร์กับแลนดรี้ก็คิดเช่นนั้น แต่ผู้ที่คิดเสียงดังกว่าก็คือเซ็กคอร์ด
เซ็กคอร์ดให้ความเห็นเรื่องน้ำแบ่งว่า “มันเป็นความสูญเสียที่ไม่จำเป็นเลยจริงๆเพราะทุกคนต่างรู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะต้องเกิดขึ้น” เซ็กคอร์ดกล่าวตรงไปตรงมาอีกว่า “เท็ด แช็คลี่นั้นไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับยุทธวิธีการทำสงคราม”
No comments:
Post a Comment