Friday, September 7, 2007

บทความที่๒๖๘. ทุนนิยม (ตอนที่๑)

ทุนนิยม

สังคมในยุคต่างๆที่ผ่านมา ตั้งแต่ยุคอนารยชน จนกระทั่งมาถึงยุคอารยธรรม เราได้เห็นถึงการกดขี่ขูดรีด การต่อสู้ทางชนชั้นมาตลอด ที่เป็นเช่นนั้นเพราะสังคมมีเพียง ๒ ชนชั้นคือชนชั้นผู้เบียดเบียนและชนชั้นผู้ถูกเบียดเบียน ดังนั้นการปะทะกันระหว่างสองชนชั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่พ้น และเนื่องจากชนชั้นผู้เบียดเบียนเป็นผู้กุมอำนาจในทางเศรษฐกิจเหนือชนชั้นอื่น ดังนั้นจากการมีอำนาจในทางเศรษฐกิจ ทำให้เขามีอำนาจในทางการเมืองเหนือชนชั้นอื่นด้วย ดังที่เป็นมาในประวัติศาสตร์และที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ และโดยที่มีอำนาจในทางการเมือง พวกเขาจึงใช้อำนาจทางการเมืองบวกอำนาจทางเศรษฐกิจทำการกดขี่ขูดรีดเบียดเบียนประชาชนส่วนใหญ่ ด้วยความอิ่มเอิบอย่างผู้มีชัย

แต่ในที่สุดผู้มีชัยในวาระเริ่มแรก คือชนชั้นผู้เบียดเบียนก็ได้ประสบกับความพินาศฉิบหายทุกที ประวัติศาสตร์บอกเราดังนี้ ชนชั้นผู้เบียดเบียนแห่งระบบทาสก็ดี ระบบศักดินาก็ดี ล้วนแต่ต้องหกคะเมนลงมาทั้งนั้น ทั้งนี้ก็เนื่องจากผลของการต่อสู้ดิ้นรนของชนชั้นที่ถูกเบียดเบียนหรือถูกกดขี่ขูดรีดนั้นเอง

แต่เนื่องจากจากการต่อสู้ดิ้นรนของชนชั้นที่ถูกเบียดเบียนหรือถูกกดขี่ในยุคแรกๆนั้น ไม่มีจุดหมายปลายทางอันแน่นอน และพกวเขาไม่มีองค์การจัดตั้งที่เข้มแข็งเป็นองค์การนำในการต่อสู้

ดังนั้น จึงเปิดโอกาสให้นักขูดรีดหน้าใหม่โผล่ขึ้นมาแทนที่นักขูดรีดหน้าเก่าในรูปแบบของการขดรีดแบบใหม่ๆ ส่วนประชาชนส่วนใหญ่ก็ตกเป็นชนชั้นถูกเบียดเบียนเช่นเดิม

ดังเช่นเมื่อนายทาสต้องถูกบังคับให้ลงจากเวทีประวัติศาสตร์ไป เจ้าศักดินาก็เข้ามาแทนที่ และเมื่อเจ้าศักดินาต้องถูกบังคับให้ลงเวทีไปตามระบบนายทาสไปอีก นายทุนก็ฉวยโอกาสเข้ามาเสนอหน้าสืบต่อจากการกดขี่ขูดรีดภายใต้ระบบเศรษฐกิจทุนนิยม ดังที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ส่วนประชาชนส่วนใหญ่ที่ถูกกดขี่ขูดรีด ซึ่งถูกเรียกต่างๆกันตามยุคตามสมัย เช่นในยุคทาสก็ถูกเรียกว่า ทาส ในยุคศักดินาก็ถูกเรียกว่า ไพร่ ในยุคทุนนิยมก็ถูกเรียกว่า คนงาน, ชนชั้นกรรมกร, พวกรากหญ้า แต่จะเรียกชื่อใดพวกเขาก็ยังคงตกเป็นผู้ถูกกดขี่ขูดรีดเช่นเดิม

ทั้งนี้ก็โดยเหตุผลดังกล่าวแล้ว คือว่าไม่มีจุดหมายปลายทางอันแน่นอนและไม่มีองค์การจัดตั้งที่เป็นองค์การนำอันเข้มแข็ง และถ้าเมื่อใดชนชั้นผู้ถูกกดขี่ขูดรีดทั้งหลายได้มีจุดหมายอันแน่วแน่ในการต่อสู้ และได้มีองค์การจัดตั้งที่เข้มแข็งเป็นองค์การนำในการต่อสู้แล้ว เมื่อนั้นภาวะแห่งการกดขี่ขูดรีดทั้งหลายก็คงจะหมดไปอย่างไม่มีวันจะได้กลับมาเกิดอีก

ประวัติศาสตร์อันยาวนานที่ผ่านมาจนถึงยุคทุนนิยมในสมัยปัจจุบันนี้ ได้ให้ความจัดเจน ได้ให้การเรียนรู้แก่มนุษย์เป็นอันมากจนเกิดปัญญาสูงส่ง มนุษย์ได้พิจารณา สังเกตจนเรียนรู้กฎธรรมชาติ ได้เรียนรู้กฎของการพัฒนาของสังคม ได้เรียนรู้ถึงมูลเหตุแห่งความขัดข้องแล้วก็เรียนรู้ที่จะแก้ไข

ดังนั้น ทุนนิยมจึงเบิกโรงขึ้นมาด้วยการปฏิวัติทั้งในทางเศรษฐกิจและในทางการเมือง ในทางเศรษฐกิจเริ่มต้นด้วยการปฏิวัติทางอุตสาหกรรม โดยมนุษย์รู้จักประดิษฐ์เครื่องจักรไอน้ำ แล้วต่อไปก็เครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องจักรปรมณู และเครื่องจักรอื่นๆ ที่จะมีต่อไปในอนาคต

ล้มระบบศักดินา

การปฏิวัติในประเทศอังกฤษมีจุดเริ่มจากพวกชนชั้นกฎูมพีหรือ เจ้าสมบัติ ได้เข้ายึดอำนาจจากพวกเจ้าศักดินาผู้ปกครองประเทศด้วยการใช้กำลังอาวุธ และการปฏิวัติในประเทศอังกฤษของกฎุมพีได้เกิดก่อนประเทศใดๆ เป็นเวลานาน การต่อสู้อย่างไม่ขาดสายของพวกชนชั้นกฎุมพีหรือเจ้าสมบัติต่อระบบเก็บภาษีและการจำกัดสิทธิต่างๆ ที่ชนชั้นปกครองศักดินาได้ปฏิบัติต่อพวกเขาได้มาถึงจุดระเบิดอย่างรุนแรงในกลางคริสตศตวรรษที่ ๑๗ เนื่องจากกฏที่พวกศักดินาได้ออกมานั้นเป็นการจำกัดสิทธิและเหนี่ยวรั้งขัดขวางการขยายตัวของการผลิตแบบทุนนิยม ในขั้นต้นพวกกฎุมพีหรือเจ้าสมบัติได้พยายามปลดเปลื้องการกดขี่โดยวิธีสงบ พวกเขาได้ทำคำร้องปฏิเสธการเก็บภาษี และปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามข้อบังคับอื่นๆ อีก ที่เขาเห็นว่าไม่เป็นธรรมต่อพวกเขา แต่วิธีการร้องทุกข์ดังกล่าวนั้น หาอำนวยความสำเร็จที่เป็นแก่นสารอันใดไม่

ดังนั้น พวกกฎุมพีหรือเจ้าสมบัติจึงต้องหันเข้าหาวิธีการใช้กำลังเผชิญกำลัง และจำต้องปลุกเร้าประชาชนให้ขัดแข็งกษัตริย์ ขัดแข็งต่อการเก็บภาษี และการจำกัดสิทธิในการค้าขาย ขัดแข็งต่อการจับกุมและลงโทษ ซึ่งตุลาการของกษัตริย์เป็นผู้ลงโทษ พวกกฎุมพีหรือเจ้าสมบัติได้ใช้ความพยายามทุกอย่างในอันที่จะทำลายเครื่องกีดขวางต่างๆ ของสังคมศักดินา กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ พวกกฎุมพีหรือเจ้าสมบัติจำต้องดำเนินการรวบรวมกำลังเพื่อทำการปฏิวัติโดยใช้กำลังอาวุธ ต้องนำประชาชนให้จับอาวุธขึ้นขัดแข็งกับกษัตริย์และทหารและระบบการกดขี่ที่มีอยู่ในเวลานั้น ทำให้เหล่าผู้ปกครองต้องปราชัยลง

จึงเป็นการอยู่ในวิสัยที่ชนชั้นกฎุมพีหรือเจ้าสมบัติ จะได้เปลี่ยนฐานะไปเป็นชนชั้นปกครองเสียเอง และจะสามารถทำลายเครื่องกีดขวางต่างๆ ที่ระบบศักดินาได้ตั้งตรึงไว้ เพื่อกีดกันมิให้เศรษฐกิจแบบทุนนิยมได้คลี่คลายขยายตัว รวมทั้งการออกฎหมายต่างๆ เพื่อความจำเป็นในการนั้น

No comments: