Wednesday, March 12, 2008

บทความที่๓๕๗.พบถิ่นอินเดีย-ค้นหาภาพอดีตอินเดีย

บันทึกของเนห์รู
(เรียบเรียงจาก The Discovery of India ของยวาหระลาล เนห์รู , กรุณา กุศลาสัย แปล)
บันทึกในที่คุมขังป้อมอะหะหมัดนคร

๗. ค้นหาภาพของอินเดียในอดีต

เมื่อข้าพเจ้าเติบโตขึ้นและมีส่วนพัวพันกับการเคลื่อนไหวซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อการไปสู่อิสรภาพของอินเดีย จิตใจของข้าพเจ้าก็หลงใหลใฝ่ฝันอยู่แต่เรื่องของอินเดีย อะไรคืออินเดียที่ครอบงำตัวข้าพเจ้าอยู่ ที่เฝ้ากวักมือเรียกข้าพเจ้า และกระตุ้นเตือนให้ข้าพเจ้าลงมือกระทำ เพื่อจะบรรลุความปรารถนาแห่งใจ ซึ่งถึงแม้ว่าจะเลือนรางแต่ทว่ามีอยู่อย่างซาบซึ้ง? ข้าพเจ้าเข้าใจว่าแรงกระตุ้นเตือนขั้นแรกเกิดขึ้นจากความรักศักดิ์ศรีอันเป็นวิสัยทั้งของบุคคลและของชาติและเป็นผลเนื่องมาจากความปรารถนาของมนุษย์ทุกผู้ทุกนามในอันที่จะต่อต้านการมาเป็นเจ้าเข้าครองของผู้อื่น และพยายามให้ได้มาซึ่งอิสรภาพเพื่อการมีชีวิตอยู่ตามความสมัครใจ

ข้าพเจ้ารู้สึกอัศจรรย์ใจที่ประเทศอันกว้างใหญ่ไพศาลเช่นอินเดีย ซึ่งมีประวัติความเป็นมาอย่างมั่งคั่งและเก่าแก่ ต้องมาถูกมัดมือมัดเท้าให้อยู่กับเกาะแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างไกลออกไป(เกาะอังกฤษ)แล้วเกาะนี้ก็มามีอำนาจเหนืออินเดีย ที่น่าอัศจรรย์ยิ่งไปกว่านี้ก็คือ การเกี่ยวพันกันโดยพลการเช่นนี้ได้ก่อให้เกิดความยากจนและเสื่อมโทรมอย่างเหลือที่จะคณานับ นี่เป็นสาเหตุเพียงพอที่จะทำให้ข้าพเจ้าและผู้อื่นต้องลงมือมีการกระทำ

ข้าพเจ้าได้ตระหนักมากขึ้นทุกทีว่า การอยู่อย่างโดดเดี่ยวนั้นเป็นสิ่งไม่น่าพึงปรารถนาและเป็นไปไม่ได้ อนาคตที่ก่อร่างขึ้นมาในมโนภาพของข้าพเจ้านั้น เป็นอนาคตแห่งการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ในด้านการเมือง การเศรษฐกิจ และการวัฒนธรรมระหว่างอินเดียกับประเทศอื่นๆ ในโลก แต่ก่อนที่อนาคตจะเกิดขึ้นย่อมต้องมีปัจจุบัน และเบื้องหลังของปัจจุบันเล่าก็มีอดีตอันยาวนานและซับซ้อน ซึ่งก่อให้เกิดปัจจุบัน เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงหันหน้าไปทางอดีตเพื่อแสวงหาความรู้และความเข้าใจ

กระบวนภาพอันยืดยาวแห่งประวัติศาสตร์อินเดียได้คลี่คลายขยายตัวมาปรากฏต่อหน้าข้าพเจ้า พร้อมด้วยความสูงๆต่ำๆ ลุ่มๆ ดอนๆ พร้อมด้วยชัยชนะและการพ่ายแพ้ ข้าพเจ้ารู้สึกว่ามีอะไรบางสิ่งบางอย่างเป็นพิเศษในการติดต่อสืบเนื่องทางวัฒนธรรมของอินเดียซึ่งมีอายุยืนนานมาตั้งห้าพันปี ได้ประสบพบเห็นการรุกรานและความอลเวงวุ่นวาย ได้สร้างสรรค์ขนบธรรมเนียมประเพณีขึ้นมาแพร่หลายในท่ามกลางมวลชน ซึ่งล้วนมีอิทธิพลเหนือจิตใจของเขาเหล่านั้น จะมีอีกก็ประเทศเดียวเท่านั้นที่มีการสืบเนื่องทางประเพณีและชีวิตทางวัฒนธรรมติดต่อกันเช่นนี้ ประเทศนั้นก็คือประเทศจีน

กระบวนภาพแห่งอดีตซึ่งกล่าวถึงนี้ ค่อยๆผสานกลมกลืนเข้ากับปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความทุกข์ อันเป็นยุคที่อินเดีย ทั้งที่เคยมีความยิ่งใหญ่และเสถียรภาพมาแล้วในอดีต กลับต้องกลายมาเป็นประเทศทาส ประเทศที่ติดสอยห้อยท้ายประเทศอังกฤษ และขณะนี้ในที่ทั่วโลกสงครามอันโหดเหี้ยมและทำลายล้างก็กำลังดำเนินอยู่ กำลังแปรสภาพของมนุษย์ให้เป็นสัตว์เดียรัจฉาน แต่ภาพของเมื่อห้าพันปีก่อนนี้ได้ก่อทรรศนะใหม่ให้แก่ข้าพเจ้าว่า เวลา ๑๘๐ปีกว่าที่อังกฤษปกครองอินเดียมานั้น เป็นเพียงการเล่นสลับฉากที่ไม่น่าอภิรมย์อีกตอนหนึ่งเท่านั้นในประวัติศาสตร์อันยาวนานของอินเดีย และอย่างไรเสีย อินเดียก็จะเป็นตัวของอินเดียเองอีก แม้ในขณะนี้หน้ากระดาษสุดท้ายแห่งประวัติศาสตร์ตอนนี้กำลังได้รับการขีดเขียนอยู่แล้ว โลกเองก็จะรอดพ้นจากภัยพิบัติแห่งสงครามในปัจจุบัน และจะสร้างสรรค์ตัวของมันบนพื้นฐานใหม่อีกวาระหนึ่ง

No comments: