Monday, March 31, 2008

บทความที่๓๗๙.ภารกิจเสรีไทย (๗)

ภารกิจเสรีไทย
จากบันทึกของ ร.ต.อ.เฉียบ อัมพุนันทน์ (ชัยสงค์)
ในที่สุด เขาก็พาข้าพเจ้าออกจากบ้านสีลมและบึ่งตรงไปยังทำเนียบผู้สำเร็จราชการที่ท่าช้าง นั่นคือที่พักของ “รัฐบุรุษอาวุโส ปรีดี พนมยงค์” เขาพาข้าพเจ้าตรงไปทางด้านหลังเลาะไปยังท่าน้ำอย่างคล่องแคล่ว สมกับที่เขาเคยเข้าออกมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ท่านปรีดี พนมยงค์ มองเห็นเราทั้งสองแต่ไกล ท่านจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วยิ้มรับเราอย่างอารมณ์ดีเอ่ยกับเราว่า

“มาทางนี้เลย..”

พร้อมกับกวักมือเรียกให้ไปที่ศาลาท่าน้ำนั้นอย่างกันเอง เชื้อ สุวรรณศร หัวเราะแหะๆ ไปตามอัธยาศัยของเขา แต่เมื่อข้าพเจ้าไปถึงที่แล้วก็กล่าวขึ้นว่า

“ผมจะต้องกลับไปก่อน มีธุระครับ...”

แล้วก็หันมากล่าวกับข้าพเจ้าว่า

“ลื้อสงสัยอะไรก็ถามได้อย่างเต็มที่ อั๊วจะไปคอยอยู่ที่บ้านมะลิวัลย์ พอลื้อเสร็จจากนี่ก็ไปหาอั๊วที่บ้านมะลิวัลย์ก็แล้วกัน จะได้รู้จักนายเชื้อ หุ่นจำลอง แล้วก็จะได้ตกลงอะไรกันเสียเลย”

ข้าพเจ้าพยักหน้าแทนคำตอบและรู้ดีว่าเขาต้องการให้ข้าพเจ้าซักถามเรื่องราวโดยอิสระซึ่งไม่มีเขาร่วมอยู่ด้วย เมื่อเขาเดินออกไปแล้วข้าพเจ้าก็เริ่มต้นทีเดียว

“ผมยังไม่เข้าใจรูปงานเลยครับ...”

ท่านปรีดี พนมยงค์ เปิดฝากระป๋องบุหรี่ดึงมันออกมามวนหนึ่ง นั่งลงที่เก้าอี้ตัวที่ชิดข้าพเจ้าที่สุด แล้วก็เริ่มอธิบาย

“ขบวนการนี้เป็นขบวนการเสรีไทยที่ต่อสู้จักรวรรดินิยมญี่ปุ่นซึ่งรุกรานประเทศของเรา เราได้พยายามรวบรวมคนไทยที่รักชาติหลายฝ่ายทั้งในประเทศและนอกประเทศและร่วมมือกับสัมพันธมิตร ไม่ใช่ว่าเราต่อสู้โดดเดี่ยวประเทศเดียว นักเรียนไทยที่ไปศึกษาในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษก็ได้ลอบเข้ามาในประเทศเพื่อร่วมงานมากมายแล้ว สำหรับหน่วยของคุณนั้นเป็นหน่วยอเมริกัน บางหน่วยก็เป็นของอังกฤษ คนเคาะวิทยุของคุณเป็นนักเรียนไทยจากอเมริกา ขอให้คุณได้ทำหน้าที่ในการสืบสวนแล้วรายงานข่าวไปตามที่สัมพันธมิตรจะถามมา แล้วก็ให้ตั้งหน่วยต่อต้านญี่ปุ่นขึ้นเป็นหน่วยใต้ดิน..”

“แล้วจะรบเมื่อไหร่ล่ะครับ?” ข้าพเจ้าถามขึ้นอย่างร้อนรนก่อนที่ท่านจะพูดจบ

“ผมจะสั่งการไปภายหลังเมื่อทุกหน่วยทั่วราชอาณาจักรของเราพร้อมแล้ว และสอดคล้องกับสภาพทางการเมืองนอกประเทศและเหตุการณ์ทางยุทธศาสตร์บางอย่าง” ท่านตอบสั้นๆ

ข้าพเจ้าได้ถามขึ้นอย่างงงๆ ว่า

“ผมยังไม่เข้าใจวิธีการจัดการหน่วยใต้ดิน นั้นว่าควรจะทำกันอย่างใด?”

ท่านเคาะขี้บุหรี่ลงในที่เขี่ยแล้ว ก็เริ่มอธิบาย

“ควรจะจัดการตั้งเป็นค่ายขึ้นในภูมิประเทศที่เร้นลับเพื่อให้เป็นฐานทัพของเรา หากเป็นสภาพในเมืองก็ต้องจัดการหาสมาชิกโดยการเลือกเฟ้นเป็นพิเศษเพื่อรักษาความลับ บางหน่วยเขาทำเป็นค่ายได้อย่างงดงามมาก เช่นที่เมืองกาญจน์โดยการร่วมมือกับข้าหลวงประจำจังหวัดได้ละก้อดีแน่ เราจะสามารถเอาพวกนักโทษออกจากคุกไปตั้งค่ายอยู่ในป่า ทำเป็นว่าเราตั้งนิคมให้พวกนักโทษอยู่ ปลูกเผือกปลูกมันทำไร่ไถนาไป แล้วเราก็พลอยผสมเอานักโทษเข้าร่วมมือ เพราะนักโทษนั้นเราสามารถบังคับบัญชาได้ และจะหลบหนีไปไหนไม่ได้ ทำให้รักษาความลับได้ดี ถัดจากนั้นเราก็ส่งพลพรรคที่คัดเลือกแล้วเข้าไปฝึกอาวุธเป็นรุ่นๆ สำหรับสถานที่ก็ควรหาสถานที่ซึ่งห่างไกลจากญี่ปุ่นหรือพวกชาวบ้าน เมื่อฝึกอาวุธเรียบร้อยแล้วก็ส่งออกมาประจำท้องถิ่นที่เราจะมอบหมายให้ทำงานในส่วนที่เกี่ยวกับอาวุธนั้น สัมพันธมิตรจะเอามาส่งให้ทางอากาศโดยทิ้งร่มชูชีพลงมา วิธีการเตรียมตัวรับของนั้นจะต้องมีการนัดหมาย ขอให้คุณสอบถามได้จากคนเคาะวิทยุซึ่งเขาได้ฝึกมาเรียบร้อยแล้ว ถ้าเหมาะสมเขาก็อาจส่งทางเครื่องบินทะเลโดยร่อนลงตามสถานที่นัดหมาย วิธีการนี้เราอาจส่งคนไปฝึกอาวุธนอกประเทศได้ หรือฝึกเสร็จแล้วก็เอากลับมาส่งคืนให้ก็ได้ หรือไม่เขาก็อาจจะส่งอาวุธและคนมาทางเรือดำน้ำดั่งทางด้านจังหวัดระนอง

ผมขอกำชับเรื่องการฝึกอาวุธให้สามารถทำการรบได้นั้นมีความสำคัญมาก จำเป็นจะต้องทำให้ที่ลับหูลับตาญี่ปุ่นหรือสายลับของมัน เสียงของปืนหรือเสียงของการระเบิดของลูกระเบิดมือที่ฝึกซ้อมประจำวันอาจจะดังออกไปจนทำให้คนที่อยู่ในบริเวณข้างเคียงนั้นรู้ได้ เรื่องก็จะรั่วไหล อย่างชุมพรของคุณอาจจะลำบากมากเพราะบริเวณมันแคบ แต่ก็ขอให้พยายาม คุณจะพอดำเนินการได้ไหม?”ท่านหันมาซักข้าพเจ้า

“ผมจะพยายามจนเต็มความสามารถ”

ท่านปรีดี พนมยงค์ ยิ้มรับคำตอบของข้าพเจ้าอย่างมั่นใจ

“เห็นเชื้อเขามารับรองว่าคุณจะสามารถทำได้ในสภาพที่ลำบากเช่นจังหวัดชุมพรนี้ผมก็รู้สึกยินดีมาก..”

“เมื่อจะลงมือรบ ผมจะเอาตำรวจใต้บังคับบัญชาเข้าทำการรบด้วยจะได้ไหมครับ?”

“ได้ ไม่มีการขัดข้องอะไร ยิ่งเป็นการดีที่จะสามารถทำเช่นนั้นได้ เราต้องการความร่วมมือจากคนไทยทุกคน นอกจากนั้นถ้าเราสามารถดึงทหารทุกหน่วยให้เข้าทำการรบด้วยการรวมกำลังกัน ก็ยิ่งเป็นการดีอย่างยิ่ง...เราต้องการความสามัคคีแห่งชาติ..”

ท่านหยุดไปสักประเดี๋ยวหนึ่งก็กล่าวต่อไปอีกว่า

“คุณรู้ไหมว่าข้าหลวงประจำจังหวัดชุมพรนั้นเป็นใคร ?”

“ผมไม่ทราบเลยครับ”

“อยากจะให้คุณเข้าร่วมกับข้าหลวงประจำจังหวัด แล้วงานของเราจะได้กว้างขวางออกไปทุกอำเภอ ลงไปสู่กำนันผู้ใหญ่บ้านสะดวกเข้า”

“ครับ”

“ถ้ามีเหตุขัดข้องประการใด หรือสงสัยอะไรก็ขอให้ถามผมได้ทางวิทยุ”

“ครับ”

ข้าพเจ้ารู้สึกตื่นเต้นในการที่ข้าพเจ้าจะต้องมีความรับผิดชอบเข้ารับใช้ประเทศชาติบ้านเมืองในการเข้าต่อต้านการรุกรานของจักรวรรดินิยม และรู้สึกว่ามันมีอะไร หนักๆอยู่ในจิตใจของข้าพเจ้าอย่างที่ไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้มาแต่ก่อนเลย มันไม่มีอะไรอื่นนอกจาก “ความรับผิดชอบ” ที่ข้าพเจ้าจะต้องดำเนินการและระมัดระวังตนอย่างเข้มงวดกวดขันอยู่ท่ามกลางศัตรูผู้รุกรานสยาม.

No comments: