Friday, August 31, 2007

บทความที่ ๒๔๕.ศิลปะแห่งความสำเร็จ

ศิลปะแห่งความสำเร็จ

หลวงประดิษฐ์มนูธรรมกล่าวในการเปิดอบรมนักศึกษาธรรมศาสตร์และการเมืองเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๔๘๐

“ก่อนจะได้มา ณ มหาวิทยาลัยเพื่อรับการอบรมนี้ ข้าพเจ้าเข้าใจว่าท่านคงจะได้ทราบความประสงค์และแนวทางแห่งการอบรมแล้ว เพราะเหตุว่าการอบรมคราวนี้เป็นการอบรม ครั้งที่ ๒ ต่อจากที่ได้ทำมาแล้วเมื่อต้นปีนี้ครั้งหนึ่ง

การที่ได้จัดให้มีการอบรมขึ้นในคราวนี้ก็เพื่อจะให้โอกาสแก่ท่านทั้งหลายซึ่งได้สอบไล่วิชาในทางหลักการได้ครบบริบูรณ์ทั้ง ๖ แล้ว ครั้นจะรอไว้ให้มีการอบรมในปีหน้าก็จะทำให้ท่านจำเป็นที่จะต้องรอคอยอยู่อีกเป็นเวลาหลายเดือน

การที่ได้จัดให้มีการอบรมนั้น ท่านคงจะได้ทราบจากแนวการซึ่งผู้ที่ได้รับการอบรมครั้งที่หนึ่งจัดพิมพ์เป็นเล่มขึ้น หนังสือนี้ชื่อว่า ธรรมศาสตร์บัณฑิตย์ ๒๔๘๐ การที่ให้มีการอบรมนั้น ก็ด้วยเหตุที่เรามาคำนึงถึงท่านทั้งหลายที่ได้เล่าเรียนสอบไล่ได้จนกระทั่งครบ ๖ ภาคแล้วนั้น สิ่งที่ท่านจะได้รับไปคือ ได้รับในทางหลักวิชา แต่ว่าบุคคลเราเมื่อได้มีหลักวิชาแล้ว ในการที่จะนำเอาหลักวิชาไปใช้ให้เป็นประโยชน์นั้น ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง คือว่า หลักวิชาเปรียบประดุจสิ่งซึ่งเราเก็บไว้ในตู้ ในการที่เราจะไขตู้นำเอาหลักวิชามาใช้ให้เป็นประโยชน์นี้เป็นศิลปะ

ซึ่งความสำเร็จของแต่ละคน จะมีได้หรือไม่นั้นก็ย่อมอาศัยความชำนาญ อาศัยการอบรมบ่มนิสัยของบุคคลเท่านั้น เหตุฉะนั้นในครั้งอบรมคราวที่แล้วมา ข้าพเจ้าจึงได้ชี้ให้เห็นว่า ในการศึกษาเราจะต้องแยกออกเป็นสองอย่าง คือศึกษาในทางหลักวิชาการ ในทาง Instruction อย่างหนึ่ง และศึกษาในทางอบรมบ่มนิสัย คือในทาง Education อีกอย่างหนึ่ง และข้าพเจ้ามีความเห็นเป็นแน่วแน่ว่า บุคคลเราถ้าเห็นว่าไม่ได้รับการอบรมบ่มนิสัยไปแลว้ แม้จะมีหลักวิชาดีประการใดก็ตาม บุคคลนั้นก็ไม่สามารถที่จะนำความสำเร็จมาให้แก่ชีวิตของตน หรือความสำเร็จหรือประโยชน์มาให้แก่หมู่คณะหรือประเทศชาติได้ เหตุฉะนั้นจึงจำเป็นที่สุดที่จะต้องมีการฝึกฝน การที่จะฝึกฝนนี้เราจะฝึกฝนผู้ใดบ้าง

ในครั้งที่แล้วมาข้าพเจ้าได้ชี้แจงให้เห็นว่า การที่จะฝึกฝนนั้นเราจะต้องนำเอาผู้ที่ได้สำเร็จการศึกษาแล้วทั้ง ๖ ภาคมาอยู่รวมกัน การอยู่รวมกันก็เพื่อที่จะกระทำให้ท่านทั้งหลายได้มีความรู้จักกัน ได้รู้นิสัยซึ่งกันและกัน ตลอดจนกระทั่งให้รู้จักในเรื่องความสามัคคีในเรื่องหมู่คณะ นอกจากนั้นในการอบรมนี้เราพยายามให้หนักไปในทางที่จะอบรมให้ท่านได้สามารถเป็นบุคคลที่จะเข้าร่วมในหมู่คณะได้ ทั้งนี้ก็คือหลักในเรื่องมรรยาท ในการที่จะเข้าสมาคมและจะอบรมไปในทางกีฬาและทางพลศึกษา ทั้งนี้ก็เพราะมีความเห็นว่าในการที่เราจะดำรงชีวิตของเรานั้น ชีวิตของเราก็จะเต็มไปด้วยการต่อสู้ หมายความว่าเราจะต้องต่อสู้ธรรมชาติ และอุปสรรคอีกหลายประการ ซึ่งท่านทั้งหลายที่อยู่ในที่นี้คงจะได้ประสบ และบางทีท่านจะได้ต่อสู้มาบางแล้วก็เป็นได้ หมายความว่าต่อสู้จากความเหนื่อยยากลำบากด้วยประการต่างๆ แต่เมื่อชีวิตของเราเป็นสิ่งซึ่งจะต้องกระทำการต่อไปเช่นนี้แล้ว เราก็ควรที่จะอบรมให้ไปในทางความเป็นนักกีฬา คือหมายความว่าในทางร่างกายและอุปนิสัย ให้รู้จักการต่อสู้ ไม่ใช่เราจะต่อสู้โดยไม่มีธรรมก็หาไม่ การต่อสู้ในทางกีฬาก็เป็นการต่อสู้ในทางธรรม หมายความว่าแม้เราจะแพ้ เราก็ไม่ถือโกรธ หรือว่าเราชนะก็ไม่ซ้ำเติม นี่แหละเป็นวัตถุประสงค์ ซึ่งจะอบรมไปในทางที่ให้เป็นนักกีฬา

นอกจากนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในการที่เราจะต่อสู้ในชีวิตของเรา ก็จำเป็นจะต้องรู้จักกาละและภูมิประเทศ ในหลักวิชาการต่างๆ ที่ท่านได้มานั้นความจริงเป็นหลักวิชาซึ่งได้สั่งสอน หรือได้วางไว้เป็นกลางๆ แต่การที่จะนำไปใช้ก็จำเป็นจะต้องดูว่า จะเหมาะแก่กาละแล้วหรือยัง ดังเช่นการศึกษาเศรษฐศาสตร์ เป็นต้น การที่จะนำหลักเศรษฐศาสตร์มาใช้จำเป็นจะต้องพิจารณาว่าในท้องที่นั้นเหมาะแล้วหรือยังในการที่จะนำเอาหลักเศรษฐศาสตร์ไปใช้ หรือเหมาะสมแก่กาลสมัยหรือสภาพแล้วหรือยัง ไม่ใช่ว่าจะนำไปใช้ได้ในทุกกรณีและในทุกกาละ เพราะฉะนั้น ในการที่อบรมนี้ก็จะพยายามที่สุดที่จะให้เป็นไปตามแนวดังได้กล่าวมาแล้ว แต่ด้วยเหตุว่าเวลาการอบรมกำหนดไว้เพียงแค่ ๒ สัปดาห์เท่านั้น ในการที่จะทำให้สำเร็จสมประสงค์ทั้งหมดย่อมเป็นการยาก แต่อย่างไรก็ตาม ในการกำหนดเวลาไว้ ๒ สัปดาห์ ก็เพื่อจะให้เป็นแนวทาง เมื่อท่านอบรมไปแล้วอย่างน้อยจะได้รู้แนวทางนำวิชาและหลักวิชาซึ่งได้สอบไล่ได้แล้วนั้นไปใช้ ท่านจะต้องอาศัยหลักเกณฑ์และอบรมอย่างใดบ้าง ข้าพเจ้ามีความประสงค์อยู่เพียงแต่ว่าจะให้ผลแห่งการอบรมนี้ฝังอยู่ในจิตใจของท่าน และเป็นแนวทางเพื่อท่านจะได้ไปปฏิบัติในวิถีของชีวิตต่อไปอีก เมื่อได้สำเร็จการอบรมแล้ว

ข้อความพิสดารเกี่ยวแก่การอบรมนี้หวังใจว่าท่านคงจะได้รับเอกสารจากมหาวิทยาลัย เพราะว่าในครั้งแรกก็ได้มีเอกสารอยู่หลายอย่าง เพื่อที่จะไม่ต้องกล่าวข้อความให้ยืดยาว ข้าพเจ้าจะได้สั่งให้เจ้าพนักงานแจกเอกสารนี้แก่ท่านเพื่อท่านจะได้ไปอ่านในเมื่อมีโอกาส หวังว่าในที่สุดนี้ข้าพเจ้าขออวยพรให้ท่านนักศึกษาทั้งหลาย ที่ได้มาอบรมในคราวนี้ ขอให้มีความสุขกายสบายใจและขอให้ได้รับผลแห่งการอบรมสมดังความมุ่งหมายของมหาวิทยาลัย เพื่อที่จะนำความเจริญมาสู่ตัวท่าน สู่ครอบครัว และประเทศชาติ”.

No comments: