คุณสุพจน์ ด่านตระกูลได้ยกคำสารภาพผิดหรือการวิจารณ์ตนเองของอาจารย์ปรีดีฯ ต่อบทบาททางการเมืองของท่านที่ผ่านมา แต่ประเสริฐฯ มุ่งวิจารณ์อาจารย์ปรีดีไปในประเด็นที่ว่าอาจารย์ปรีดีฯ ไม่ใช่นักประชาธิปไตย แต่เป็นเผด็จการ(อีกรูปแบบหนึ่ง) โดยเฉพาะประเสริฐฯ อ้างข้อเขียนของอาจารย์ปรีดีฯ ที่เขียนอธิบายคำว่า REVOLUTION ว่า
“ในขณะนั้นคำว่า REVOLUTION ยังไม่ได้แปลเป็นศัพท์เฉพาะว่า ปฏิวัติจึงแปลเป็นคำธรรมดาว่า เปลี่ยนแปลงการปกครองจากกษัตริย์อยู่เหนือกฎหมาย”
แล้วประเสริฐฯ ก็สับอาจารย์ปรีดีฯ จากประโยคข้างต้นโดยทันทีว่า
”โดยไม่ได้อธิบายให้ชัดเจนว่าระบอบการปกครองที่กษัตริย์อยู่ใต้กฎหมายนั้น เป็นระบอบอะไร เราจึงไม่รู้ว่าระบอบที่จะสร้างขึ้นใหม่ตามทรรศนะของอาจารย์ปรีดีนั้น เป็นระบอบประชาธิปไตยหรือเผด็จการ เพราะระบอบที่กษัตริย์อยู่ใต้กฎหมายนั้น อาจเป็นระบอบประชาธิปไตยก็ได้ อาจเป็นระบอบเผด็จการก็ได้ แสดงว่าความต้องการของอาจารย์ปรีดีนั้น ขอแต่ให้เป็นระบอบที่กษัตริย์อยู่ใต้กฎหมายก็แล้วกัน”
และแล้ว ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร ก็สรุปลงว่า
“กล่าวอย่างถึงที่สุดแล้ว อาจารย์ปรีดีไม่ได้คิดที่จะเปลี่ยนแปลงระบอบเผด็จการ เป็นระบอบประชาธิปไตย แต่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงระบอบเผด็จการรูปหนึ่งเป็นระบอบเผด็จการอีกรูปแบบหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ว่าจะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว”
“ในขณะนั้นคำว่า REVOLUTION ยังไม่ได้แปลเป็นศัพท์เฉพาะว่า ปฏิวัติจึงแปลเป็นคำธรรมดาว่า เปลี่ยนแปลงการปกครองจากกษัตริย์อยู่เหนือกฎหมาย”
แล้วประเสริฐฯ ก็สับอาจารย์ปรีดีฯ จากประโยคข้างต้นโดยทันทีว่า
”โดยไม่ได้อธิบายให้ชัดเจนว่าระบอบการปกครองที่กษัตริย์อยู่ใต้กฎหมายนั้น เป็นระบอบอะไร เราจึงไม่รู้ว่าระบอบที่จะสร้างขึ้นใหม่ตามทรรศนะของอาจารย์ปรีดีนั้น เป็นระบอบประชาธิปไตยหรือเผด็จการ เพราะระบอบที่กษัตริย์อยู่ใต้กฎหมายนั้น อาจเป็นระบอบประชาธิปไตยก็ได้ อาจเป็นระบอบเผด็จการก็ได้ แสดงว่าความต้องการของอาจารย์ปรีดีนั้น ขอแต่ให้เป็นระบอบที่กษัตริย์อยู่ใต้กฎหมายก็แล้วกัน”
และแล้ว ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร ก็สรุปลงว่า
“กล่าวอย่างถึงที่สุดแล้ว อาจารย์ปรีดีไม่ได้คิดที่จะเปลี่ยนแปลงระบอบเผด็จการ เป็นระบอบประชาธิปไตย แต่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงระบอบเผด็จการรูปหนึ่งเป็นระบอบเผด็จการอีกรูปแบบหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ว่าจะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว”
No comments:
Post a Comment