Sunday, March 22, 2009

ลำดับ๕๑๑.สงครามลับของCIAในลาว(๒๔)

สงครามลับของ CIA ในลาว
บทที่ ๒๔ วีรกรรมของกองพันฝ่ายแนวลาวรักชาติ

๑๗ พฤษภาคม ๒๕๐๒ โดยการบัญชาการของกระต่าย โดนสะโสลิด รัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศ ได้สั่งให้ทหารของแนวลาวรักชาติ ๒ กองพันที่จะเข้าร่วมกับกองทัพของราชอาณาจักรตามข้อตกลงเจนีวา วางอาวุธและปรับเปลี่ยนผู้บังคับบัญชา โดยเอานายทหารเวียงจันทน์มาเป็นผู้บังคับบัญชาแทนนายทหารของแนวลาวรักชาติ ที่จะถูกย้ายไปอยู่ที่อื่น

คณะผู้นำของ ๒ กองพันถึงแม้ว่าจะอยู่คนละแห่งแต่ก็อยู่ภายใต้การชี้นำของพรรคและก็คิดตรงกันว่า กองพันของพวกเขามาเพื่อเข้าร่วมกับกองทัพของรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรหรือรัฐบาลเวียงจันทน์ ตามนโยบายของรัฐบาลลาวต่อต้านหรือแนวลาวรักชาติ ไม่ใช่มาเพื่อยอมจำนนและให้ปลดอาวุธ และโดยเฉพาะพวกเขาไม่ได้รับคำสั่งจากผู้นำของพวกเขาที่อยู่ในเวียงจันทน์ เขาจึงปฏิเสธที่จะวางอาวุธและรับนายใหม่

กลางดึกของวันนั้นเอง กองพันที่ ๑ ที่เชียงเงิน จึงมีนายทหารพากันหลบหนีออกจากวงล้อมของทหารรัฐบาลเวียงจันทน์ไปได้ ถึง ๑ ใน ๓ ของทั้งหมด เช้าวันรุ่งขึ้น นายพลอ้วน รัตติกร ผู้บัญชาการกองทัพบกของรัฐบาลเวียงจันทน์ ไปยังค่ายทหารที่ตั้งของกองพันที่ ๒ ที่ทุ่งไหหิน เพื่อรับมอบอาวุธก็มีอาการผงะตลึงอ้าปากค้างเมื่อพบว่าค่ายที่มีทหารอยู่ ๑ กองพันนั้นได้ว่างเปล่ากลายเป็นค่ายร้าง ทั้งๆที่กองทหารของตนที่ได้ปิดล้อมเตรียมลงมือปราบปรามมีอยู่ถึง ๕ กองพัน แต่ไม่มีสักคนที่จะรู้ว่าทหารฝ่ายปเทดลาวถึง ๑ กองพันที่ถูกปิดล้อมอยู่นั้นแหกค่ายหนีไปได้อย่างไร? ทหารฝ่ายรัฐบาลได้ออกติดตามอย่างเคียดแค้น ถึงกับส่งพลร่มไปดักหน้าในเส้นทางที่คิดว่าฝ่ายปเทดลาวจะต้องไป โดยหมายมาดจะเข่นฆ่าเสียให้สิ้น

กองพันที่ ๑ ที่เล็ดลอดหนีออกมาได้จำนวนหนึ่ง ได้รวบรวมกำลังกันที่จุดนัดพบ แล้วก็สู้พลางถอยพลางจนไปถึงฐานที่มั่นที่ซำเหนือ ส่วนที่ไปไม่ถึงจุดนัดพบก็ได้แยกย้ายกันไปตามเส้นทางที่ปลอดภัย จนไปถึงพงสาลี หลวงพระบางและท้องที่ต่างๆ ที่ใกล้เคียงกันแล้วก็จับอาวุธสู้ต่อไป

ส่วนกองพันที่ ๒ ที่ได้สร้างวีรกรรมอันกล้าหาญหลบหนีการปิดล้อมของทหารฝ่ายรัฐบาลจำนวน ๕ กองพัน ไปได้ทั้งหมดนั้น เป็นกองพันที่มีความชำนาญและรู้จักภูมิประเทศเป็นอย่างดี จึงสามารถซุ่มซ่อนและเข้าโจมตีทหารของนายพลอ้วน ที่ติดตามมาโดยไม่ทันรู้ตัวซึ่งได้สร้างความพินาศเสียหายให้กับฝ่ายติดตามอย่างยับเยิน

โดยอาศัยยุทธวิธีแบบกองโจรที่ตนถนัดด้วยการแยกกำลังออกเป็นหน่วยเล็กๆ แล้วดักซุ่มโจมตีทหารนายพลอ้วน ตามยุทธวิธีที่เรียกว่า ตีเร็วหนีเร็วจากการใช้ยุทธวิธีที่ชาญฉลาด จึงทำให้กองพันที่ ๒ สู้พลางถอยพลางจากทุ่งไหหินจนเข้าสู่ที่มั่นซำเหนือ และการที่ทหาร ๒ กองพันของแนวลาวรักชาติฝ่าวงล้อมของทหารหุ่นเวียงจันทน์ที่มีกำลังอย่างน้อย ๕ กองพันกลับมายึดครองซำเหนือและพงสาลีได้ตามเดิม ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกตกใจไปทั่วในหมู่นักต่อต้านคอมมิวนิสต์ ทั้งผุย ชนะนิกร กระต่าย และภูมี หน่อสวัน ทั้ง ซีไอเอ และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ

จากวีรกรรมของกองพันที่ ๒ ได้สร้างความมั่นใจให้กับขบวนการปฏิวัติและประชาชนลาวมากยิ่งขึ้น และในขณะเดียวกันก็ได้เปิดโอกาสให้ผุย ชนะนิกรร้องขอความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกาเพิ่มมากขึ้น โดยขอ “ช่างเทคนิค” และที่ปรึกษาทางทหารเพิ่มขึ้นอีก สหรัฐอเมริกาก็แถลงว่าจะส่งช่างเทคนิคทางทหารมาให้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงว่า ตนเคารพและปฏิบัติตามสัญญาสงบศึกเจนีวา

ช่างเทคนิคอเมริกันดังกล่าวจะสวมเครื่องแต่งกายพลเรือนและจะขยายกองทัพบกลาวจาก ๒๕,๐๐๐ คนเป็น ๓๐,๐๐๐ คนด้วย

No comments: