Thursday, October 11, 2007

บทความที่ ๓๓๔. ตุลาแดงรำลึก (๘)

ตุลาแดงรำลึก
เรียบเรียงจากหนังสือประวัติรัฐธรรมนูญ ของคุณสุพจน์ ด่านตระกูล
-๘-
ภายใต้รัฐบาลพจน์ สารสิน ซึ่งมีสมญานามว่า ลูกบุญธรรมของจอห์น ฟอสเตอร์ดัลเลส อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ผู้บ้าคลั่งในการต่อต้านคอมมิวนิสต์ และเป็นผู้บัญญัติหลัก ๑๐ ประการในการต่อต้านรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ในขณะนั้น ซึ่งยังผลมาถึงประเทศไทยด้วย จนถึงปัจจุบันนี้ และเพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติ จึงขอนำรายละเอียดมาแฉ ณ ที่นี้ คือ

๑. ใช้ทุกสิ่งทุกอย่างล่อลวงและทำลายเยาวชนของพวกเขาอย่างสุดความสามารถ ปลุกปั่นพวกเขาให้ดูหมิ่นเหยียดหยาม และก้าวไปอีกก้าวหนึ่ง ถึงขั้นคัดค้านความคิดและการศึกษาที่พวกเขาได้รับมาแต่เดิมโดยเฉพาะอย่างยิ่งตำราลิทธิคอมมิวนิสม์ ช่วยพวกเขา(หมายถึงเยาวชนจีน-ผู้เขียน)สร้างอารมณ์และโอกาสแห่งการปล่อยตัวปล่อยใจทางกามราคะ ยั่วยุพวกเขาให้ก้าวไปอีกก้าวหนึ่ง มีสัมพันธ์สำส่อน ให้พวกเขาไม่รู้สึกละอายต่อความเบาปัญญา ฟุ้งเฟ้อ จะต้องทำลายล้างจิตใจ มานะบากบั่นทรหดอดทนที่พวกเขาเคยมีให้สิ้น

๒. จะต้องทำงานการโฆษณาทุกอย่างเท่าที่จะทำได้อย่างสุดความสามารถ รวมทั้งภาพยนตร์ หนังสือ โทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง และการเผยแพร่ศาสนาในรูปแบบใหม่ ขอแต่เพียงให้พวกเขาใฝ่ฝันในรูปแบบเสื้อผ้า อาหาร การอยู่อาศัย การสัญจร ความบันเทิงและการศึกษาของเรา (แบบสังคมทุนนิยม-ผู้เขียน) ก็ถือว่าสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว

๓. จะต้องชักนำความสนใจของเยาวชนของเขา ให้หันเหไปจากการถือรัฐบาลของพวกเขาเป็นจุดศูนย์รวมที่สืบทอดกันมา (ตามระบบพรรค-ผู้เขียน) ให้ความคิดความอ่านของพวกเขาไปรวมศูนย์อยู่ที่การแสดง การกีฬา หนังสือกามตัณหา การแสวงหาความสุข การละเล่น ภาพยนตร์ อาชญากรรม และความเชื่องมงายในศาสนา(แบบไสยศาสตร์-ผู้เขียน)

๔.จะต้องก่อให้เกิดกระแสคลื่นกวนน้ำให้ขุ่นอยู่เสมอ แม้จะไม่มีเหตุการณ์อะไรก็ตาม ให้ประชาชนของพวกเขาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเปิดเผย ดังนี้ ก็จะปลูกฝังพืชแห่งความแตกแยกอยู่ในจิตใต้สำนึกของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะต้องหาโอกาสดีในชนชาติส่วนน้อยของพวกเขา สร้างความอาฆาตใหม่ เป่าความแค้นเก่าให้ลุกโพลน เรื่องนี้เป็นนโยบายที่จะมองข้ามไปมิได้โดยสิ้นเชิง (เช่น ปัญหาที่เกิดขึ้นในสามจังหวัดภาคใต้ของเราในขณะนี้-ผู้เขียน)

๕. เราจะต้องสร้างข่าวขึ้นมาไม่ขาดระยะ สร้างความอัปลักษณ์แก่ผู้นำของพวกเขา ผู้สื่อข่าวของเราควรจะฉวยโอกาสเข้าสัมภาษณ์พวกเขา หลังจากนั้นก็จัดเรียงถ้อยคำของพวกเขาไปโจมตีพวกเขาเองในสถานที่นานาชาติ การถ่ายรูปจะต้องสนใจเป็นพิเศษ มันเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการสร้างความอัปลักษณ์ให้แก่พวกเขา เราจะต้องอาศัยความเป็นไปได้ทุกอย่าง ให้ประชาชนของพวกเขาค้นพบโดยมิได้ตั้งใจว่า ผู้นำของพวกเขามีแต่ความอัปลักษณ์ พิกลพิการ ต่ำช้าและโสโครก (อย่างที่กลุ่มสนธิ-ประสงค์ ทำกับอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร-ผู้เขียน)
๖.ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้สภาวะใด เราจะต้องป่าวร้องประชาธิปไตย เมื่อมีโอกาสก็จะต้องรีบปลุกระดมการเคลื่อนไหวประชาธิปไตยในทันที โดยไม่ต้องไปคำนึงว่าจะเป็นขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ จะมีรูปแบบหรือไม่มีรูปแบบก็ตาม ไม่ว่าจะอยู่ในกาละเทศะใด ไม่ว่าจะอยู่ในภาวะใด เราล้วนแต่จะต้องเรียกร้องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนต่อรัฐบาลของพวกเขาไม่ขาดสาย (อย่างที่กลุ่มสนธิ-ประสงค์ เรียกร้องต่ออดีตรัฐบาลทักษิณ-ผู้เขียน) ขอแต่พวกเราทุกคนพูดอย่างเดียวกันไม่ได้ขาด ประชาชนของพวกเขาก็จะต้องเชื่อว่า สิ่งที่เราพูดเป็นความจริง(แม้จะพูดโกหก-ผู้เขียน)อย่างแน่นอน เราได้มาคนหนึ่ง ก็นับว่าได้มาหนึ่ง เราครองพื้นที่ได้มาหนึ่งก็ถือว่าครองได้หนึ่งพื้นที่ จะต้องทำทุกอย่างโดยไม่ต้องเลือกว่าจะเป็นวิธีการอย่างไร องค์กรและเจ้าหน้าที่ทางการค้าของเรา ล้วนต้องไม่ถือการครอบครองตลาดการค้าเป็นเป้าหมายสุดท้ายเป็นอันขาด เพราะตลาดการค้าในพริบตาเดียวก็อาจสูญเสียไปได้ ถ้าแม้ว่าเรายังไม่ได้ยึดครองตลาดการเมืองเอาไว้

๗.เราจะต้องยุยงส่งเสริมให้รัฐบาลของพวกเขาสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่งเสริมพวกเขาให้กู้หนี้ยืมสินจากพวกเรา ดังนี้เราก็จะมีความมั่นใจเต็มที่ในการทำลายล้างเครดิตของพวกเขาได้ เราให้เงินตราของพวกเขาราคาถูก เกิดภาวะเงินเฟ้อ ขอแต่พวกเขาเสียการควบคุมราคาสินค้าไปแล้ว ในจิตใจของประชาชน พวกเขาก็ต้องพังทลายโดยสิ้นเชิง

๘. เราจะต้องใช้ความได้เปรียบทางเศรษฐกิจและทางเทคโนโลยี โจมตีอุตสาหกรรมของพวกเขาทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น เพียงแต่อุตสาหกรรมของพวกเขาเป็นอัมพาตไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว เราก็สามารถที่จะปลุกระดมความปั่นป่วนของสังคมขึ้นมาได้ แต่ทว่าโดยภายนอกแล้วเราจะต้องแสดงว่าได้ช่วยเหลือเกื้อหนุนพวกเขาด้วยความเมตตากรุณาอย่างเต็มที่ ดังนี้(รัฐบาล)พวกเขาก็จะอ่อนปวกเปียกอย่างเห็นได้ชัด รัฐบาลที่อ่อนปวกเปียกก็จะนำมาซึ่งความปั่นป่วนที่ใหญ่ยิ่งขึ้นและรุนแรงยิ่งขึ้น

๙. เราจะต้องใช้ทรัพยากรบรรดามี แม้กระทั่งการยกมือยกเท้าพูดจา ยิ้มหัว ก็ล้วนแต่สามารถจะทำลายค่านิยมที่สืบทอดกันมาได้ เราจะต้องใช้ทุกสิ่งทุกอย่างไปทำลายจิตใจแห่งศีลธรรมตามวิสัยของพวกเขาให้พินาศ ทำลายหัวกุญแจแห่งความภาคภูมิใจและความเชื่อมั่นในตัวเองให้สิ้นไป ซึ่งก็คือโจมตีจิตใจมานะ บากบั่น ทรหดอดทนของพวกเขาอย่างสุดความสามารถ

๑๐. ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างลับๆ ให้กับผู้ที่เป็นศัตรูของพวกเขา และผู้ที่อาจจะกลายเป็นศัตรูของพวกเขาทั้งหมด (อย่างที่กำลังกระทำอยู่ใน ๓ จังหวัดภาคใต้ขณะนี้-ผู้เขียน)

บัญญัติ ๑๐ ประการนี้ นายจอห์นฟอสเตอร์ดัลเลส อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา เป็นผู้กำหนดขึ้นมานานแล้ว ตั้งแต่ปี ค.ศ.๑๙๕๑ /พ.ศ.๒๔๙๔) และได้เพิ่มเติมปรับปรุงแก้ไขเรื่อยมา เพื่อใช้เป็นยุทธศาสตร์การแปรเปลี่ยนโดยสันติต่อจีน ให้ระบบสังคมนิยมของจีนที่เพิ่งเริ่มต้นพังพินาศลง เป็นการทำสงครามที่ปราศจากควันปืนกับจีน ดังเช่นที่ได้ทำให้สหภาพโซเวียตและยุโรปตะวันออกล่มสลายมาแล้ว (คัดจากหนังสือเผยโฉมหน้าฝ่าหลุนกง ของ บุญศักดิ์ แสงระวี ที่ถ่ายทอดมาจากหนังสือพิมพ์ เซี่ยงกั่งซางเป้า ของฮ่องกงประจำวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๐๐๐)

No comments: