Saturday, February 23, 2008

บทความที่๓๔๓.การหลบหนีไปยังจีนหนที่๒ ตอนที่๑

การผจญภัยระหว่างการหลบหนีออกจากสยามครั้งที่ ๒ ไปยังสาธารณรัฐราษฎรจีน
ปรีดี พนมยงค์
-๑-

ข้าพเจ้าได้หลบซ่อนอยู่ในบ้านผู้รักความเป็นธรรมคนหนึ่ง ดังที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงในตอนที่ ๓ ของบทก่อน ในช่วง ๕ เดือนนี้ ข้าพเจ้าไม่มีทางก่อการฯ ได้อีกครั้ง ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจเดินทางออกจากสยามไปยังเมืองปักกิ่ง ซึ่งเพิ่งได้รับการปลดปล่อย โดยกองทัพปลดแอกราษฎรจีน ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ข้าพเจ้าได้มอบหมายให้ภรรยารับภารกิจที่ยากลำบากในการจัดหาลู่ทางหลบหนีของข้าพเจ้า และเพื่อนอีก ๒ คน ด้วยการขอความช่วยเหลือจากมิตรผู้ซื่อสัตย์ชาวไทยและชาวจีน

รัฐบาลได้เฝ้าระวังชายแดนทางบกอย่างเข้มงวด เราจึงเลือกหลบหนีไปทางทะเล แม้ว่าเส้นทางนี้จะต้องเสี่ยงภัยอย่างมากมายก็ตาม เนื่องจากเราจะต้องผ่านด่านตรวจหลายแห่งตามปากแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเราต้องแล่นเรือผ่าน เพื่อออกไปสู่ทะเล อีกอย่างหนึ่ง ในน่านน้ำเขตสยามก็มีกองลาดตระเวนทหารเรือของฝ่ายรัฐบาลตรวจตราอยู่ นอกจากนี้ก็ยังด่านควบคุมตามชายฝั่งมลายูของอังกฤษ และหมู่เกาะอินโดนีเซีย ซึ่งขณะนั้นเป็นอาณานิคมของฮอลแลนด์ เราจะต้องเสี่ยงภัยอีกครั้งหนึ่ง ก่อนลอบลงเรือเดินทะเลไปยังฮ่องกง จากฮ่องกงเราก็ลงเรืออีกลำไปชิงเต่า ซึ่งขณะนั้นกองกำลังของฝ่ายราษฎรจีนยึดไว้ได้แล้ว

เพื่อนคนหนึ่งได้จัดหาเรือประมงติดเครื่องยนต์ที่มีระวางขับน้ำ ๕ ตันให้ และนายเรือโทนอกราชการผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นผู้รักชาติ ซื่อสัตย์ต่อราษฎร เต็มใจขอลางานชั่วคราวจากบริษัทเดินเรือที่เขาทำงาน เพื่อช่วยเหลือด้านการบังคับเรือประมงเล็กๆ ลำนี้ด้วยตนเอง

ภรรยาข้าพเจ้าได้ขอให้เพื่อนชาวจีนผู้หนึ่ง (ซึ่งไม่ใช่ชาวคอมมิวนิสต์)ช่วยเหลือเรา โดยจัดให้ลงเรือเดินทะเลที่สิงคโปร์ เพื่อเดินทางอย่างลับๆ ไปฮ่องกง (เมื่อหลังสงคราม เราเคยให้ความคุ้มครองเพื่อนคนนี้จากการขู่เอาชีวิตของพวกจีนชาตินิยม)

ที่ฮ่องกง ตัวแทนของพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะต้องช่วยเปลี่ยนเรือให้เรามุ่งหน้าไปยังท่าเรือชิงเต่า โดยที่เรือลำนั้นต้องแล่นไปตามเส้นทางที่สามารถหลบหลีกกองเรือลาดตระเวนของจีนคณะชาติที่ควบคุมทางใต้ของจีน และแล่นไปมาในทะเลจีนอยู่ในขณะนั้น

ภรรยาของข้าพเจ้าได้นัดกับเพื่อนชาวจีนโพ้นทะเลคนนั้นว่า ถ้า ๑๐ ภายหลังข้าพเจ้าเดินทางออกจากกรุงเทพฯแล้ว เขายังไม่ได้ข่าวคราวการถูกจับของเรา ก็หมายความว่า เราได้เดินทางผ่านเขตน่านน้ำของสยามไปแล้ว หลังจากนั้นเพื่อนชาวจีนจะต้องบอกเลขานุการที่ไว้ใจได้ให้ขึ้นเครื่องบินไปสิงคโปร์ ซึ่งเป็นที่ที่เรานัดพบกัน เพื่อว่าเจ้าหน้าที่ของอังกฤษจะได้ไม่รู้ว่าเราอยู่ที่สิงคโปร์

No comments: