Friday, May 1, 2009

ลำดับ๖๒๖ยุทธการภูผาที(๒๗)

บทที่๒๗ บุกถึงยอดภู

๐๒๐๐ น.เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของกองทัพอากาศบนภูผาที คือร้อยตรี บิล แบลนตัน ได้แลกเปลี่ยนข้อความทางโทรเลขกับเจ้านายของเขาร้อยโทเครย์ตันที่อยู่ในศูนย์ฯ๔๘๐๒ อุดรฯ เครย์ตันแจ้งว่าเท่าที่เขาทราบนั้นเจ้าหน้าที่บนภูผาทีได้รับอนุมัติให้ระเบิดสถานีเรดาห์ทิ้งและเผ่นหนีเอาตัวรอดออกมาในทันที แบลนตันตอบกลับมาว่าเรดาห์ยังคงทำงานอยู่และพวกเขาก็คิดจะกลับไปควบคุมอุปกรณ์ที่นั่น จ่าเมลวิน ฮอลแลนด์ เจ้าหน้าที่วิทยุเขียนต่อท้ายมาในข้อความว่า “หวังว่าคงได้เจอกัน”

ราวๆ ตีสามสิบห้านาที เจ้าหน้าที่ซีไอเอที่รออยู่บริเวณลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ได้ติดต่อมายังอุดรฯ แจ้งว่าเขาไม่สามารถติดต่อวิทยุกับเจ้าหน้าที่เทคนิคในสถานีเรดาห์ได้ “ผมได้ยินเสียงปืนอัตโนมัติดังมาจากข้างบนนั้น” ฟรีแมนแจ้งมาทางอุดรฯ

“คุณว่าไงนะ” แลนดรี้คว้าไมค์ตะโกนถามออกไป เสียงปืนอัตโนมัติเหมือนกับเสียงของปืนเอ็ม-๑๖ ซึ่งมีเสียงยิงถี่รัวแตกต่างอย่างมากจากเสียงอาวุธหนักของเวียดนามเหนือที่ยิงขึ้นมาจากบริเวณเชิงเขา หากเจ้าหน้าที่ซีไอเอหูไม่ฝาดไปล่ะก็ นั่นหมายความว่าพวกข้าศึกได้เล็ดลอดผ่านแนวตั้งรับขึ้นไปได้แล้ว แล้วพวกคนไทยอยู่ที่ไหนกัน

“นั่นนะสิ แต่ผมแน่ใจว่าหูไม่ฝาด” ฟรีแมนยืนยัน

แลนดรี้สั่งการไปว่า “คุณรีบไปตามพวกนั้นมาโดยด่วน และรีบขึ้นไปยอดเขาอย่าชักช้า”

เซ็กคอร์ดใช้โทรศัพท์สายตรงจากฝูงบินที่ ๑๓ ในอุดรฯ พูดกดดันนายทหารเวรของกองบินที่ ๗ ยศนายพลจัตวาว่าจะส่งตัวเขาขึ้นศาลทหารหากยังดื้อรั้นไม่ยอมส่งเครื่องกันชิพไปยังไซท์ลิม่า ๘๕

คลื่นสัญญาณวิทยุจากบนยอดเขาไม่ชัดเจนนัก แต่พอจับความได้ว่าขณะนั้นฟรีแมนถูกตรึงอยู่กับที่ และบริเวณลานจอดเฮลิคอปเตอร์ก็ตกอยู่ภายใต้การโจมตีทั้งจากอาวุธหนัก และปืนประจำกายของข้าศึก ในเวลาเดียวกันนั้นเองหน่วยคอมมานโดของพวกเวียดนามเหนือจำนวนประมาณ ๒๐ หมู่ที่ได้เล็ดลอดเข้ามาทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ อ้อมผ่านที่มั่นของหน่วยรบพิเศษชาวไทย

กำลังทำการไล่ล่าเจ้าหน้าที่อเมริกันบริเวณสถานีเรดาห์ พวกคอมมานโดเวียดนามเหนือรู้จักพื้นที่บนยอดเขาเป็นอย่างดี เชื่อกันว่าแบลนตันและคนอื่นๆในสถานีเรดาห์ขณะนั้นได้ยินเสียงปืนและลูกระเบิดมือจึงรีบออกจากตัวอาคารและเผชิญหน้ากับหน่วยคอมมานโดข้าศึก

แบลนตันพยายามอธิบายว่าพวกเขาเป็นพลเรือนและไม่มีอาวุธ เขาเอื้อมมือไปที่กระเป๋าหลังเพื่อจะหยิบบัตรประจำตัวของบริษัทล็อกฮีทออกมา และในตอนนั้นเองที่คอมมานโดเวียดนามเหนือเริ่มเปิดฉากยิงใส่เขาและอเมริกันอีกสองคนในระยะประชิดจนตายคาที่ทั้งสามคน

No comments: